วิธีการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ พร้อมวิธีการชำระเงิน ทำตามได้ไม่ยาก!

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

เวลาบรรจบมาครบปี อย่าลืมต่อภาษีรถยนต์กันด้วยล่ะ ไม่งั้นเจอค่าปรับบานแน่ และถ้าปล่อยไว้นานอาจทำให้ทะเบียนขาดได้ แต่ถ้าไม่สะดวกไปดำเนินการตามจุดต่าง ๆ เดี๋ยวนี้สามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้แล้วนะ

แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ มาดูเงื่อนไขกันก่อนว่ารถแบบไหนที่สามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้

1. รถยนต์ รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี
2. รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี
3. รถยนต์ กระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี, รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี, รถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี

*** และที่สำคัญคือต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน

วิธีการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ eservice.dlt.go.th
2. เข้าไปที่เมนู “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่” พร้อมกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนเพื่อทำการสมัคร เมื่อเสร็จแล้วให้กดปุ่ม “บันทึก” *สำหรับคนที่เคยลงทะเบียนแล้ว สามารถกรอกเลขบัตรประชาชนเพื่อล็อกอินผ่านระบบได้เลย
3. เลือกเมนู “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต”
4. กรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถเพื่อลงทะเบียนรถ และกรอกรายละเอียดหลักฐานการเอาประกันตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือซื้อจากระบบ
5. กด “ยื่นชำระภาษี”
6. ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้เรียบร้อย จากนั้นกรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร และกด “เลือกวิธีชำระเงิน”
   - ชำระผ่านธนาคาร: ธ.กรุงไทย, ธ.กรุงศรีอยุธยา และ ธ.ยูโอบี มีค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อรายการ
   - ชำระผ่านบัตรเครดิต/เดบิต: มีค่าธรรมเนียม 2% จากยอดชำระที่รวม VAT 7% แล้ว และมีค่าธรรมเนียมในการจัดส่งเอกสารรายการละ 32 บาท
   - ชำระผ่านเคาน์เตอร์บริการต่าง ๆ: เคาน์เตอร์ เซอร์วิส, ทรู มันนี่ เซอร์วิส, เทสโก้โลตัส (ค่าบริการแตกต่างกันตามแต่ละจุดบริการ และโปรดพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถยนต์ก่อนนำไปชำระที่จุดบริการ)
7.  เมื่อดำเนินการและตรวจสอบข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว ให้กด “ยืนยัน” และเมื่อคุณดำเนินการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็รอรับเอกสารที่บ้านได้เลย

วิธีการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

1. สำหรับผู้ใช้งานครั้งแรก ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทั้งช่องทาง Google Play Store และ Apple Store
2. กรอกชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และเลขประจำตัวประชาชน จากนั้นกดปุ่ม “กดเพื่อรับรหัส OTP”
3. กรอกรหัส OTP ที่ได้รับ
4. ตั้งรหัส PIN 6 หลัก
5. เลือกเมนู “ชำระภาษีรถ”
6. เลือกรูปแบบชำระภาษี
7. กรอกข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชน หรือเลขทะเบียนนิติบุคคลผู้ครอบครองรถ
8. เลือกประเภทรถที่ต้องชำระภาษี พร้อมกรอกข้อมูลทะเบียนรถ
9. กรอกข้อมูลประกันภัยรถ (พ.ร.บ.)
10. เลือกรับเครื่องหมายการเสียภาษีรถประจำปีทางไปรษณีย์ทั่วไปหรือตู้ kiosk เฉพาะในกรุงเทพมหานคร
11. เลือกช่องทางการชำระเงินได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ SCB Easy App และ QR ชำระเงิน

ต่อภาษีรถยนต์เรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากขายรถมือสอง มาลงขายที่ Motorist ได้เลย สะดวก ง่าย ไม่ผูกมัด รับราคาประเมินฟรี ภายใน 24 ชั่วโมง!

อ่านเพิ่มเติม: เทคนิคขายรถมือสองให้ได้ราคาดีที่สุด

ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…