เอกสารโอนรถต้องใช้อะไรบ้าง? รวมขั้นตอนโอนรถยนต์ พร้อมค่าธรรมเนียมล่าสุด 2568

(เครดิตรูปภาพ: freepik)

เมื่อการซื้อขายรถยนต์สิ้นสุดลง สิ่งสำคัญลำดับสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือการโอนกรรมสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็คือการเตรียม เอกสารโอนรถ ให้ครบถ้วน เพื่อให้กระบวนการทั้งหมดราบรื่นและไม่เสียเวลา บทความนี้ได้รวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการโอนรถยนต์ อัปเดตล่าสุดปี 2568

“การโอนรถ” คืออะไร

การโอนรถ หรือ การโอนกรรมสิทธิ์รถ คือกระบวนการทางทะเบียนเพื่อเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งอย่างเป็นทางการตามกฎหมาย ทำให้ผู้ซื้อมีสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นอย่างสมบูรณ์

ความแตกต่างระหว่างการโอนรถกับการเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์

"การโอนรถ" คือการเปลี่ยนเจ้าของจากการซื้อขาย ในขณะที่ "การเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์" อาจเกิดจากกรณีอื่น เช่น การเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลของเจ้าของเดิม

ทำไมต้องโอนรถให้ถูกต้องตามกฎหมาย

(เครดิตรูปภาพ: freepik)

การโอนรถให้เรียบร้อยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากไม่ดำเนินการ ผู้ขาย (เจ้าของเดิม) จะยังคงต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหากรถคันดังกล่าวถูกนำไปใช้ทำผิดกฎหมาย เช่น โดนใบสั่ง หรือเกิดอุบัติเหตุ ในขณะที่ผู้ซื้อก็จะไม่สามารถต่อภาษีหรือดำเนินการทางทะเบียนอื่นๆ ได้

การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์มีกี่แบบ

การโอนรถโดยทั่วไปมี 2 รูปแบบหลัก ดังนี้

การโอนรถเปลี่ยนเจ้าของแบบโอนตรง

เป็นการโอนที่ผู้ซื้อและผู้ขายเดินทางไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งพร้อมกัน เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเพราะสามารถตรวจสอบความถูกต้องของบุคคลและ เอกสารการโอนรถ ได้ทันที และดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันเดียว

การโอนรถเปลี่ยนเจ้าของแบบโอนลอย

การโอนรถเปลี่ยนเจ้าของโอนลอย เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากสะดวกและรวดเร็ว โดยผู้ขายจะเซ็นเอกสารสำคัญต่างๆ ที่เรียกว่า ชุดโอนรถ หรือ เอกสารโอนลอย มอบให้ผู้ซื้อไปดำเนินการโอนด้วยตนเองในภายหลัง ซึ่ง เอกสารโอนลอยรถยนต์กรมขนส่ง จะประกอบด้วยสัญญาซื้อขาย, แบบคำขอโอน และใบมอบอำนาจที่เซ็นชื่อผู้ขายไว้แล้ว

เอกสารโอนรถที่ต้องใช้ (กรณีทั่วไป)

การเตรียม เอกสารในการโอนรถ ให้พร้อมจะช่วยให้ขั้นตอนต่างๆ รวดเร็วขึ้น

เอกสารฝั่งผู้ขาย

1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียนรถ) ตัวจริง
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน (พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
4. แบบคำขอโอนและรับโอน (กรอกข้อมูลและลงลายมือชื่อผู้โอน)
5. หนังสือมอบอำนาจโอนรถ (กรณีที่ผู้ขายไม่ได้มาด้วยตนเอง)

เอกสารฝั่งผู้ซื้อ

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
2. สำเนาทะเบียนบ้าน (พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)

เอกสารโอนรถกรณีพิเศษ

รถติดไฟแนนซ์ 

ต้องปิดบัญชีสินเชื่อกับไฟแนนซ์ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นไฟแนนซ์จะส่งเล่มทะเบียนและ ชุดโอนรถ มาให้เจ้าของเพื่อนำไปดำเนินการโอนต่อไป

รถในนามนิติบุคคล

ต้องใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (อายุไม่เกิน 6 เดือน), สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม และตราประทับของบริษัท (ถ้ามี)

รถของผู้เสียชีวิต

ต้องมีคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก, มรณบัตรของเจ้าของรถ และเอกสารของผู้จัดการมรดกเพื่อดำเนินการโอนในฐานะทายาท

ขั้นตอนการโอนรถที่สำนักงานขนส่ง

(เครดิตรูปภาพ: freepik)

1. ยื่นเอกสาร: นำ เอกสารโอนรถกรมขนส่ง ทั้งหมดไปยื่นที่แผนกทะเบียนของสำนักงานขนส่งตามเขตพื้นที่ที่ระบุในเล่มทะเบียน
2. ตรวจสภาพรถ: นำรถยนต์เข้าช่องตรวจสภาพรถเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์
3. ชำระค่าธรรมเนียม: เจ้าหน้าที่จะประเมินราคาและคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด
4. รับเล่มทะเบียน: รอรับสมุดคู่มือจดทะเบียนรถที่เปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าของใหม่ พร้อมใบเสร็จรับเงิน

ค่าธรรมเนียมการโอนรถและค่าบริการอื่นๆ

• ค่าคำขอ: 5 บาท
• ค่าธรรมเนียมการโอน: 100 บาท
• ค่าตรวจสภาพรถ: 50 บาท
• ค่าอากรแสตมป์: 500 บาทต่อทุกๆ การประเมินราคารถ 100,000 บาท
• รวมค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 700-800 บาท (ไม่รวมค่าอากรแสตมป์ที่แปรผันตามราคารถ)

การโอนรถออนไลน์ ทำได้ไหม?

ณ ปัจจุบัน (ปี 2568) ยังไม่สามารถ ทำการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ได้ 100%

ระบบโอนรถผ่านเว็บไซต์หรือแอป DLT Smart Queue

แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ของกรมการขนส่งทางบกมีไว้สำหรับ "จองคิว" เพื่อเข้าไปทำธุรกรรมที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น ไม่ใช่ระบบสำหรับการโอนรถออนไลน์

ข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนโอนรถออนไลน์

กระบวนการโอนรถยังจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเอกสารตัวจริงและตรวจสภาพรถยนต์ที่สำนักงานขนส่ง จึงไม่สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้งหมด

ข้อควรรู้ก่อนทำการโอนรถ

• ตรวจสอบภาษี: รถยนต์ต้องต่อภาษีประจำปีเรียบร้อย ไม่ขาดต่อ
• ลายเซ็น: ลายเซ็นในเอกสารทุกฉบับต้องเหมือนกับในบัตรประชาชน
• ค่าปรับ: หากดำเนินการโอนช้ากว่า 15 วันนับจากวันที่ระบุในสัญญาซื้อขาย อาจมีค่าปรับตามกฎหมาย

คำถามที่พบบ่อย

1. ต้องไปโอนรถที่จังหวัดเดิมเท่านั้นไหม?

ใช่ การโอนรถต้องดำเนินการที่สำนักงานขนส่งในเขตพื้นที่ที่รถคันนั้นจดทะเบียนไว้เท่านั้น หากผู้ซื้ออยู่คนละจังหวัด จะต้องทำเรื่อง "แจ้งย้ายปลายทาง" มายังจังหวัดของตนเอง

2. ถ้าผู้ขายไม่สามารถมาด้วยตัวเอง ต้องทำอย่างไร?

ผู้ขายจะต้องเตรียม ใบมอบอำนาจโอนรถ พร้อมเซ็นชื่อในฐานะผู้มอบอำนาจ และแนบสำเนาบัตรประชาชนที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องมาให้ผู้ซื้อเพื่อดำเนินการแทน

3. รถติดไฟแนนซ์ยังผ่อนไม่หมด สามารถโอนชื่อได้ไหม?

ไม่ได้ เนื่องจากกรรมสิทธิ์ของรถยังเป็นของบริษัทไฟแนนซ์อยู่ จะต้องผ่อนชำระให้หมดสิ้นก่อนจึงจะสามารถทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้

ข้อสรุป

การเตรียม เอกสารโอนรถ ให้ถูกต้องและครบถ้วนคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ ขั้นตอนโอนรถ เป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการโอนตรงหรือโอนลอย การตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดถี่ถ้วนจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในภายหลัง และทำให้การเปลี่ยนเจ้าของรถยนต์ของคุณเสร็จสมบูรณ์อย่างแท้จริง

อ่านเพิ่มเติม: รับซื้อรถยนต์มือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ให้ราคาสูง ภายใน 24 ชั่วโมง

ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…