(Photo credit: freepik)
ในยุคที่ราคาน้ำมันขึ้น ๆ ลง ๆ การเติมน้ำมันเต็มถังทีไรแทบจะเป็นลม แต่รู้ไหมว่า... พฤติกรรมการขับขี่และการดูแลรถของคุณ มีผลต่ออัตราการกินน้ำมันมากถึง 30%
วันนี้ Motorist Thailand รวบรวม 15 เทคนิคประหยัดน้ำมัน ที่ทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ต้องติดแก๊ส ไม่ต้องซื้อรถใหม่ แต่ช่วยให้เงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้นแน่นอน!
ปรับเปลี่ยนนิสัยการขับขี่
1. เทคนิค "เลี้ยงคันเร่ง" จินตนาการว่ามีไข่ดิบวางอยู่ใต้แป้นคันเร่ง เหยียบเบา ๆ ค่อย ๆ ไต่ระดับความเร็ว การออกตัวกระชากคือตัวการผลาญน้ำมันอันดับ 1
2. รักษาความเร็วให้คงที่ ความเร็วที่ประหยัดน้ำมันที่สุดสำหรับรถทั่วไปคือ 80 - 90 กม./ชม. การขับเร็วเกิน 110 กม./ชม. จะทำให้อัตราการกินน้ำมันเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
3. มองการณ์ไกล (กะระยะเบรก) ถ้าเห็นไฟแดงอยู่ไกล ๆ ให้ "ถอนคันเร่ง" ปล่อยให้รถไหลไปเอง การเหยียบคันเร่งไปจนเกือบถึงไฟแดงแล้วเบรกตัวโก่ง คือการเผาน้ำมันทิ้งโดยเปล่าประโยชน์
4. ไม่จอดติดเครื่อง (Idling) หากต้องจอดรอนานเกิน 1 นาที ให้ดับเครื่องยนต์ การติดเครื่องทิ้งไว้เฉย ๆ เผาน้ำมันทิ้งฟรี ๆ และรถรุ่นใหม่ ๆ ใช้น้ำมันในการสตาร์ทน้อยมาก ไม่ต้องกลัวเปลือง
5. ใช้ Cruise Control เมื่อวิ่งทางไกล ระบบล็อคความเร็วช่วยให้การจ่ายน้ำมันนิ่งและเสถียรกว่าเท้าของเรา ช่วยลดการเหยียบ ๆ ยก ๆ โดยไม่จำเป็น
6. อย่าลากรอบเครื่องยนต์ สำหรับเกียร์ธรรมดา ให้เปลี่ยนเกียร์ในช่วงรอบเครื่องที่ไม่สูงเกินไป (ประมาณ 2,000-2,500 รอบ) ส่วนเกียร์ออโต้ พยายามหลีกเลี่ยงโหมด Sport หากไม่จำเป็น
การดูแลรักษารถ
1. เช็คลมยางเป็นประจำ ลมยางอ่อนทำให้หน้ายางสัมผัสพื้นเยอะ เกิดแรงเสียดทานสูง เครื่องยนต์ต้องออกแรงลากรถมากขึ้น เติมลมยางตามสเปคโรงงานช่วยประหยัดได้ทันที
2. เปลี่ยนกรองอากาศ (Air Filter) ถ้าจมูกเราตัน เราก็หายใจลำบาก รถก็เช่นกัน! กรองอากาศที่สกปรกทำให้อากาศเข้าห้องเผาไหม้ไม่สะดวก เครื่องยนต์จึงต้องฉีดน้ำมันหนาขึ้นเพื่อชดเชยกำลัง
3. ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ที่เหมาะสม อย่าใช้น้ำมันเครื่องหนืดเกินความจำเป็น เลือกใช้เกรดตามคู่มือรถระบุ จะช่วยลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ได้
4. เช็คหัวเทียน หัวเทียนเสื่อมสภาพทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เผาไหม้เชื้อเพลิงได้ไม่หมดจด ทำให้สิ้นเปลือง
5. ตรวจสอบฝาถังน้ำมัน ถ้าซีลยางฝาถังเสื่อม หรือปิดไม่สนิท น้ำมันสามารถระเหยออกไปในอากาศได้ (เสียเงินฟ รีๆ แบบไม่รู้ตัว)
เทคนิคอื่น ๆ
1. เคลียร์สัมภาระท้ายรถ รถหนักทำให้กินน้ำมัน เอากระเป๋าเสื้อผ้า รองเท้า หรือถุงกอล์ฟที่ไม่ได้ใช้ออกไป น้ำหนักที่ลดลงทุก 50 กก. ช่วยประหยัดน้ำมันได้ราว 2%
2. ลู่ลมมีผล (Aerodynamics) เมื่อขับเร็วเกิน 80 กม./ชม. อย่าเปิดกระจก เพราะลมจะตีเข้าห้องโดยสารเกิดแรงต้าน (Drag) และถ้ามีแร็คหลังคาที่ไม่ได้ใช้ ควรถอดออก
3. ปรับแอร์ให้พอดี เมืองไทยร้อน แต่การปรับแอร์ 18 องศาตลอดเวลาทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก แนะนำให้ปรับที่ 25 องศา แล้วเพิ่มแรงลมเอา จะประหยัดกว่ามาก
4. วางแผนเส้นทาง (รวมธุระในรอบเดียว) เครื่องยนต์กินน้ำมันสูงสุดตอนที่เครื่องยังเย็น (Cold Start) ดังนั้นควรรวบรวมธุระหลายๆ อย่างไปทำในเที่ยวเดียว เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา
บทสรุป
การประหยัดน้ำมันไม่ใช่เรื่องยาก แค่ปรับเปลี่ยนนิสัยเล็กน้อยรวม ๆ กัน ก็สามารถเซฟเงินค่าน้ำมันได้หลักพันบาทต่อเดือน!
แต่ถ้าทำทุกข้อแล้ว รถก็ยังกินน้ำมัน... อาจถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่เป็นรุ่นที่ประหยัดกว่า (เช่น รถ Hybrid หรือ EV) มาขายรถคันเดิมกับ Motorist Thailand เราช่วยประเมินราคาฟรี และหาผู้ซื้อที่ให้ราคาสูงสุดให้คุณภายใน 24 ชม.
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: รับซื้อรถยนต์มือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ให้ราคาสูง ภายใน 24 ชั่วโมง
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…
