วิธีดูแลรถกระบะให้เหมือนใหม่ตลอดเวลา

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1685609028819 Low Angle White Modern Car Outdoors+%281%29

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

ดูแลรถให้เหมือนใหม่ ยังไงก็ขายต่อได้ราคาดี วันนี้ Motorist มีวิธีดูแลรถกระบะให้เหมือนใหม่ตลอดเวลามาแนะนำ

“รถกระบะ” เป็นประเภทรถที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับชาวไทย เพราะสามารถบรรทุกของได้เยอะ ราคาเอื้อมถึงได้ ลุยกับสภาพเส้นทางและสภาพอากาศของไทยได้ดี และค่อนข้างประหยัดน้ำมัน ทำให้มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก

แต่ถึงแม้ว่ารถกระบะจะเป็นรถที่ดูทนทาน แข็งแรง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีวันเสื่อมสภาพ ดังนั้นเราควรหมั่นดูแลรักษารถกระบะของเราอยู่เสมอ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

สิ่งที่ควรทำเมื่อเป็นเจ้าของรถกระบะ

1. ทำความสะอาดรถอยู่เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

การที่เราใช้รถอย่างสมบุกสมบันโดยไม่ค่อยได้ทำความสะอาดเลย อาจทำให้คราบสกปรกต่าง ๆ ฝังแน่น และทำความสะอาดได้ยาก เสี่ยงต่อการเกิดรอยขณะทำความสะอาดได้ ดังนั้นควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อรถให้ดูเงางามเหมือนใหม่

2. ตรวจเช็กและเปลี่ยนของเหลวในรถตามความเหมาะสม

ของเหลวภายในรถมีหน้าที่รักษาอุณหภูมิให้กับเครื่องยนต์ หากอยู่ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ เช่น ระดับน้ำมันเครื่อง, ระดับน้ำหล่อเย็น เป็นต้น

3. เปลี่ยนไส้กรองอากาศตามความเหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์และช่วยให้อัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้น

ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่ต้องการอากาศที่สะอาด แต่เครื่องยนต์ก็ต้องการเช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีไส้กรองอากาศเพื่อดักจับและกรองฝุ่นไม่ให้เข้าไปสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้ ไส้กรองอากาศโดยปกติจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 20,000 - 40,000 กิโลเมตร (อาจแตกต่างกันตามรถแต่ละรุ่น) หรือเปลี่ยนตามความจำเป็นหากรู้สึกว่าเริ่มมีฝุ่นเยอะเกินไป

Editors%2 Fimages%2 F1685609141944 Man Using Air Pump Car Wheel

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

4. ตรวจเช็กลมยาง

ควรเติมลมยางให้พอดี ไม่ต้องมากหรือน้อยเกินไปเพราะไม่เป็นผลดีต่อการขับขี่ และควรตรวจเช็กลมยางอย่างน้อย 1-2 ครั้ง เพราะโดยปกติแล้วลมยางจะลดลงเองอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว/เดือน นอกจากนี้การบรรทุกของหนักเกินไปก็มีส่วนทำให้ศูนย์ล้อเกิดความผิดปกติและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

5. ตรวจเช็กระบบไฟ

ระบบไฟก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเกิดความผิดปกติเพียงเล็กน้อยก็ควรแก้ไขทันที ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลเสียลุกลามกว่าที่คิด เช่น หากไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ ก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากนี้ควรมีฟิวส์สำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วย

6. ตรวจเช็กสภาพรถตามระยะและกำหนด

ทุกส่วนของรถมีอายุการใช้งานและเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หากคุณใช้งานรถโดยไม่ตรวจเช็กระยะรถเลย อาจทำให้คุณไม่รู้ตัวว่ามีส่วนไหนของรถที่ผิดปกติบ้าง เช่น ยางรถ ควรตรวจเช็กทุก 6 เดือนหรือทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร เป็นต้น

7. ดูแลรถตามคู่มือประจำรถ

รถแต่ละรุ่น แต่ละคัน อาจมีการดูแลที่แตกต่างกันออกไปในบางส่วน ควรศึกษาและทำความเข้าใจกับคู่มือประจำรถของคุณ เพื่อช่วยให้คุณดูแลรถได้อย่างเหมาะสม เพราะถ้าดูแลผิดวิธีอาจทำให้รถเสื่อมไวกว่าที่ควร

Editors%2 Fimages%2 F1685609299840 Confident Beautiful Rear View Attractive Young Woman Casual Wear Looking Her Shoulder While Driving Car Girl Holding Hand Wheel Handle Car Safety Concept+%281%29

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

8. จำกัดความเร็วไม่เกิน 88 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือตามคำแนะนำสำหรับรถแต่ละรุ่น

9. หลีกเลี่ยงการจอดในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยได้ง่าย

10. ไม่ควรเร่งเครื่องเมื่อสตาร์ทรถทันที ควรรอประมาณ 10-20 นาทีก่อน

11. ไม่ควรขับรถเร็วเกินไปในสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด

12. ไม่ควรเบรกกะทันหันบ่อย ๆ เพราะจะทำให้ล้อสึกเร็ว

13. ไม่ควรหมุนพวงมาลัยไปทางใดทางหนึ่งจนสุด

14. ไม่ควรจอดรถทิ้งไว้เฉย ๆ นานเกินไป เพราะเมื่อสตาร์ทรถอีกครั้งอาจทำให้แบตรถเสื่อมและเครื่องยนต์สึกหรอได้ง่าย เพราะระบบของเหลวภายในเครื่องยนต์แห้งไปแล้ว

15. ไม่ควรจอดรถตากแดด แนะนำให้ใช้ผ้าคลุมรถเพื่อป้องกันสีรถซีดเร็วและรอยขีดข่วน

Editors%2 Fimages%2 F1685609391011 White Pickup Truck Loaded With Atv Near Gas Station

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

16. ไม่ควรบรรทุกของหนักเกิน 1,100 กิโลกรัม

17. ถนอมสีรถและลดการเกิดรอยขีดข่วนด้วยการเคลือบแวกซ์

18. ขณะเติมลมยางให้สังเกตว่ามีความชื้นบริเวณตัวปั๊มหรือไม่ เพราะถ้ามีความชื้นเข้าไปอาจทำให้ล้อเสียหายได้

19. หากใช้รถไปได้ประมาณ 48,000 - 64,000 กิโลเมตร ควรเปลี่ยนหัวเทียน

20. เติมน้ำสะอาดให้หม้อน้ำรถ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมภายใน

หากใครมีเทคนิคในการดูแลรถเพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์แนะนำเข้ามาได้เลย แต่ถ้าต้องการขายรถให้ได้ราคาดี ต้องขายที่ Motorist เท่านั้น!

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: ค่าเสื่อมราคารถ คำนวณยังไง?


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น