(เครดิตรูปภาพ: freepik)
ระบบเกียร์เป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ที่ช่วยส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อ
หากเกียร์มีปัญหา อาจส่งผลต่อการขับขี่และความปลอดภัยได้ ดังนั้น ควรสังเกตอาการผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อแก้ไขก่อนที่ปัญหาจะลุกลามและทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น วันนี้ Motorist จะมาแชร์อาการของเกียร์ที่มีปัญหาให้ดูว่ามีแบบไหนบ้าง
เปลี่ยนเกียร์ยากหรือเข้าเกียร์ไม่ได้
หากต้องใช้แรงมากกว่าปกติเพื่อที่จะเปลี่ยนเกียร์ หรือเข้าเกียร์แล้วรถไม่ตอบสนอง อาจเกิดจากปัญหาน้ำมันเกียร์ต่ำ คลัตช์สึกหรอ หรือสายเกียร์มีปัญหา
เกียร์กระตุกหรือเปลี่ยนเกียร์ไม่ราบรื่น
เมื่อขับรถแล้วรู้สึกว่าเกียร์เปลี่ยนอย่างกระตุกหรือกระชาก อาจเป็นสัญญาณว่าระบบเกียร์เริ่มเสื่อม น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ หรือระบบส่งกำลังมีปัญหา
ได้ยินเสียงผิดปกติจากเกียร์
หากมีเสียง “หอน” “ครืด” หรือ “กระแทก” ขณะเปลี่ยนเกียร์หรือขับขี่ แสดงว่าเฟืองเกียร์อาจสึกหรอ หรือน้ำมันเกียร์ไม่เพียงพอ
เกียร์ลื่นหรือรถเร่งไม่ขึ้น
อาการเกียร์ลื่น คือ รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นแต่ความเร็วไม่เพิ่มตามหรือรถออกตัวช้า ซึ่งอาจเกิดจากแรงดันน้ำมันเกียร์ผิดปกติหรือแผ่นคลัตช์สึกหรอ
เกียร์ค้างหรือเปลี่ยนเกียร์เอง
หากเกียร์ล็อก ไม่สามารถเปลี่ยนขึ้นหรือลงได้ อาจเกิดจากเซ็นเซอร์หรือระบบไฟฟ้ามีปัญหา นอกจากนี้ หากรถเปลี่ยนเกียร์เองโดยไม่ได้สั่ง อาจเป็นสัญญาณของกล่องควบคุมเกียร์เสียอีกด้วย
น้ำมันเกียร์รั่วหรือมีกลิ่นไหม้
หากพบคราบน้ำมันเกียร์ใต้รถ หรือได้กลิ่นเหม็นไหม้ อาจหมายถึงซีลรั่ว หรือระบบระบายความร้อนของเกียร์มีปัญหา ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เกียร์พังได้
หากพบอาการเหล่านี้ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กกับช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายรุนแรงและค่าซ่อมที่สูงขึ้น การหมั่นตรวจเช็กและเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ได้อีกด้วย
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: รถมือสองของคุณราคาเท่าไหร่? พร้อมแนะนำวิธีเช็คราคาประเมินรถเบื้องต้นด้วยตัวเองง่าย ๆ จากที่บ้าน
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…