แม้ญี่ปุ่นและเยอรมนีจะครองจำนวนสิทธิบัตรรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด แต่จีนและเกาหลีใต้กลับมีสิทธิบัตรที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก!
จากรายงานของสถาบันวิจัย Mitsui & Co. Global Strategic Studies Institute (MGSSI) ในกรุงโตเกียว พบว่า สิทธิบัตรด้านรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนและเกาหลีใต้ถูกจัดอันดับว่ามี "คุณภาพ" สูงที่สุดในโลก ในขณะที่บริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่นและเยอรมนี ยังคงครองแชมป์ด้านจำนวนสิทธิบัตรที่มากกว่า
รายงานโดย Nikkei Asia ระบุว่า ผู้ผลิตแบตเตอรี่สัญชาติจีนอย่าง CATL, Huawei, Aulton และ BYD อาจมีสิทธิบัตรด้าน EV ไม่มากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่กลับมีคะแนนผลกระทบทางเทคโนโลยี (technological impact) สูงกว่ามาตรฐานอย่างชัดเจน
การจัดอันดับนี้อ้างอิงข้อมูลจาก LexisNexis PatentSight+ ซึ่งวัดจากดัชนีรวมหลายปัจจัย โดย CATL รั้งอันดับ 1 ด้วยคะแนน 2.7 ตามด้วย LG Energy จากเกาหลีใต้ในอันดับ 2 ด้วยคะแนน 2.6 ส่วน Huawei และ Aulton ครองอันดับ 3 ร่วมกันที่คะแนน 2.3 ขณะที่ BYD อยู่อันดับ 4 ร่วมกับ Hitachi Astemo จากญี่ปุ่น
ดัชนีชี้วัดผลกระทบของสิทธิบัตรนี้ ประเมินจากจำนวนการอ้างอิง (citations) และอายุของสิทธิบัตรที่ยังเหลืออยู่ก่อนหมดอายุ โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วไปอยู่ที่ 1.0 บริษัทที่ทำคะแนนได้เกิน 2.0 จึงถือว่ามีสิทธิบัตรที่มีอิทธิพลสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึงสองเท่า
ด้านฝั่งญี่ปุ่น Toyota และ Lexus ถือครองสิทธิบัตรด้าน EV เป็นสัดส่วนมากที่สุดในประเทศ ในขณะที่ฝั่งตะวันตก ผู้นำด้านสิทธิบัตรเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ General Motors จากสหรัฐอเมริกา, Hyundai จากเกาหลีใต้, Volvo ที่อยู่ภายใต้กลุ่ม Geely ของจีน และ Ford Motor ที่อยู่ในอันดับที่ 10
CATL ถือเป็นผู้นำตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศจีน และครองส่วนแบ่งตลาดโลกถึง 38% ตามปริมาณยอดขายในปีที่ผ่านมา โดยมีแบรนด์รถยนต์มากกว่า 50 รายทั่วโลกที่เลือกใช้แบตเตอรี่ของ CATL ไม่ว่าจะเป็น Geely, Tesla, Honda หรือ Volkswagen ซึ่งแบตเตอรี่ถือเป็นองค์ประกอบหลักที่มีต้นทุนสูง และคิดเป็น 30–40% ของต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งคัน
MGSSI ได้จัดอันดับจำนวนสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า (รวมถึงสิทธิบัตรที่อยู่ระหว่างการยื่นขอ) ของ 20 บริษัทสำคัญจากจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ เยอรมนี และสวีเดน
Toyota Motor ของญี่ปุ่น (รวมถึงแบรนด์ Lexus) ครองสิทธิบัตร EV มากที่สุดในโลกที่จำนวน 6,135 รายการ คิดเป็นเกือบ 60% ของสิทธิบัตรทั้งหมด 10,466 ฉบับในญี่ปุ่น ซึ่งมาจาก Toyota, Honda, Nissan และ Denso ขณะที่ Volkswagen จากเยอรมนีตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวน 2,464 รายการ นำหน้า Hyundai Motor Group (รวมแบรนด์ Kia) ที่มีสิทธิบัตร 2,250 รายการ สำหรับเยอรมนี Bosch และ BMW Group ได้ถือครองสิทธิบัตร EV อีก 1,203 และ 986 รายการตามลำดับ
MGSSI ยังระบุถึงแนวโน้มล่าสุดว่า มีการเร่งยื่นสิทธิบัตรในด้านระบบตรวจสอบ การชาร์จ และการควบคุมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทรถยนต์กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีหลักเหล่านี้เพื่อยกระดับสมรรถนะและความปลอดภัยของรถ EV
สิทธิบัตรได้กลายเป็นทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ที่เน้นซอฟต์แวร์และระบบขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่เดิมทีไม่ได้พัฒนามาเพื่อรถยนต์โดยตรง เช่น การสื่อสารไร้สาย เซนเซอร์ กล้อง และบริการคลาวด์
Ryusuke Ishiguro ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของ MGSSI ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia ว่า “แม้จีนจะมีสิทธิบัตรน้อยกว่า แต่พวกเขาคัดเลือกอย่างพิถีพิถันก่อนยื่นจด”
โดย Volkswagen Group ซึ่งครอบคลุมแบรนด์อย่าง Skoda, CUPRA, Audi และ Porsche ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ถือครองสิทธิบัตร EV มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: Toyota เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 15 รุ่น ภายในปี 2027 พร้อมตั้งฐานการผลิตในไทย!
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…