(เครดิตรูปภาพ: Partsmax)
หม้อน้ำคือหัวใจของการระบายความร้อนในรถยนต์ อย่าปล่อยให้พังโดยไม่รู้ตัว!
“หม้อน้ำ” เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้ไม่ร้อนเกินไป หากดูแลไม่ดี รถของคุณอาจ “ฮีท” หรือเครื่องยนต์ร้อนจัดจนเกิดความเสียหายร้ายแรงได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนหรือขับรถทางไกล การเข้าใจการดูแลหม้อน้ำจึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้นั่นเอง
หม้อน้ำคืออะไร? ทำหน้าที่อะไรในรถ?
หม้อน้ำ (Radiator) คืออุปกรณ์ที่ช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ โดยการนำความร้อนจากน้ำหล่อเย็น (Coolant) ที่ไหลเวียนอยู่ในเครื่องยนต์ออกมา และปล่อยความร้อนผ่านครีบระบายอากาศ
ถ้าหม้อน้ำมีปัญหา เช่น น้ำแห้ง หม้อน้ำตัน หรือรั่ว จะทำให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์พุ่งสูงจนอาจถึงขั้นเครื่องน็อค หรือฝาสูบโก่งได้เลย
วิธีเช็กหม้อน้ำแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
1. เช็กระดับน้ำในหม้อพักน้ำ (ไม่ใช่เปิดฝาหม้อน้ำตรงๆ)
- รอให้เครื่องยนต์เย็นก่อน (สำคัญมาก!)
- มองดูระดับน้ำใน “ถังพักน้ำ” ว่าอยู่ในระดับ MIN – MAX หรือไม่
- หากต่ำกว่าระดับ MIN ให้เติมน้ำยาหล่อเย็น หรืออย่างน้อยน้ำเปล่าจนถึงระดับที่เหมาะสม
อย่าเปิดฝาหม้อน้ำตอนเครื่องยังร้อนเด็ดขาด! เพราะไอน้ำแรงดันสูงอาจพุ่งออกมาทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
2. สังเกตสีของน้ำในหม้อน้ำ
- หากน้ำใสหรือมีสีเขียว/น้ำเงิน/ชมพู (แล้วแต่ชนิดของ Coolant) ถือว่าปกติ
- ถ้าน้ำเป็นสีสนิมหรือมีตะกอน แสดงว่ามีคราบสะสม ควรถ่ายล้างหม้อน้ำ
3. ดูใต้ท้องรถว่ามีรอยหยดน้ำหรือไม่
หากจอดรถแล้วพบว่ามีน้ำหยดตรงใต้หม้อน้ำหรือใต้ห้องเครื่อง อาจเป็นสัญญาณของหม้อน้ำรั่ว ควรรีบนำรถไปตรวจเช็กที่ศูนย์บริการก่อนจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา
สัญญาณเตือนว่าหม้อน้ำอาจมีปัญหา
- ไฟแจ้งเตือนอุณหภูมิบนหน้าปัดติด
- เข็มวัดอุณหภูมิขึ้นสูงผิดปกติ
- มีควันพุ่งขึ้นมาจากฝากระโปรงรถ
- เครื่องยนต์ดับกระทันหันหรือทำงานแปลก ๆ
- น้ำในหม้อพักลดลงเร็วกว่าปกติ
หากพบอาการเหล่านี้ให้หยุดรถทันที และรอให้เครื่องยนต์เย็นก่อนเช็ก
เคล็ดลับการดูแลหม้อน้ำให้ใช้งานได้นาน
- ใช้น้ำยาหล่อเย็นแทนน้ำเปล่าล้วน เพราะช่วยป้องกันสนิมและควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า
- เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นตามรอบที่ผู้ผลิตแนะนำ (เช่น ทุก 40,000 กม. หรือปีละครั้ง)
- ล้างหม้อน้ำเป็นประจำ เพื่อป้องกันตะกอนอุดตัน
- ตรวจดูฝาหม้อน้ำว่าแน่นดี ไม่บวม หรือเสื่อมสภาพ
- หมั่นเช็กสายยางหม้อน้ำว่าไม่มีรอยปริหรือแข็งกรอบ
หม้อน้ำอาจเป็นชิ้นส่วนที่หลายคนมองข้าม แต่หากละเลยบ่อย ๆ อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่ต้องเสียเงินซ่อมแพงโดยไม่รู้ตัว แค่หมั่นเช็กสภาพเป็นประจำ และสังเกตความผิดปกติเล็กน้อยให้ไว ก็สามารถช่วยให้รถของคุณปลอดภัยจาก “อาการฮีท” ได้แล้ว!
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: เลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? แนะนำยางที่เหมาะกับรถคุณที่สุดในปี 2025
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…