เปลี่ยนหัวเทียนด้วยตัวเอง ทำได้ไหม? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?

เผยแพร่โดย เมื่อ

(เครดิตรูปภาพ: minit-tune)
ทำไมต้องเปลี่ยนหัวเทียน?

หัวเทียน (Spark Plug) เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ ที่มีบทบาทในการจุดระเบิดผสมผสานระหว่างน้ำมันและอากาศ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากหัวเทียนเสื่อมสภาพหรือเสียหาย จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ เช่น การสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ยากขึ้น การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ และกินน้ำมันมากยิ่งขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว หัวเทียนจะมีอายุการใช้งานประมาณ 20,000 – 30,000 กม. ขึ้นอยู่กับประเภทของรถและการใช้งาน ถ้าคุณสังเกตเห็นอาการ เช่น เครื่องยนต์สตาร์ทยากหรือมีเสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์ อาจถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนหัวเทียนแล้ว

เราสามารถเปลี่ยนหัวเทียนเองได้หรือไม่?

คำตอบคือ "ได้" แต่ต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมและความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์ การเปลี่ยนหัวเทียนเองสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่มั่นใจในขั้นตอนหรือมีข้อสงสัย ควรพิจารณานำรถไปให้ช่างที่มีความชำนาญทำการเปลี่ยนให้แทนดีกว่า

เครื่องมือที่จำเป็นในการเปลี่ยนหัวเทียน

  • ประแจหัวเทียน (Spark Plug Wrench) – สำหรับการถอดและติดตั้งหัวเทียน
  • หัวเทียนใหม่ – ควรเลือกหัวเทียนที่เหมาะสมกับรุ่นรถ
  • เกจวัดระยะห่างของหัวเทียน (Spark Plug Gap Tool) – สำหรับตรวจสอบและปรับระยะห่างของหัวเทียนให้ถูกต้อง
  • น้ำมันหล่อลื่น (Anti-Seize Lubricant) – สำหรับทาหัวเทียนก่อนการติดตั้งเพื่อป้องกันการยึดติด
  • ที่จับหัวเทียน (Spark Plug Socket) – ใช้จับหัวเทียนเมื่อถอดหรือใส่ใหม่

ขั้นตอนการเปลี่ยนหัวเทียน

1. เปิดฝากระโปรงรถและหาหัวเทียน

หัวเทียนจะอยู่ในที่จุดที่เชื่อมต่อกับหัวเครื่องยนต์ ซึ่งอาจต้องถอดปลั๊กหรือฝาครอบบางส่วนออกก่อนเข้าถึงหัวเทียน

2. ถอดหัวเทียนเก่าออก

ใช้ประแจหัวเทียนและที่จับหัวเทียนเพื่อถอดหัวเทียนเก่าออก ควรระวังไม่ให้หัวเทียนแตกหัก

3. ตรวจสอบระยะห่างของหัวเทียนใหม่

ใช้เกจวัดระยะห่างของหัวเทียนเพื่อเช็กให้แน่ใจว่า ระยะห่างระหว่างขั้วไฟฟ้าของหัวเทียนถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถ

4. ทาน้ำมันหล่อลื่นที่เกลียวของหัวเทียน

ทาน้ำมันหล่อลื่นที่เกลียวของหัวเทียนใหม่เพื่อให้การติดตั้งง่ายขึ้นและป้องกันไม่ให้หัวเทียนติดแน่นเกินไปในอนาคต

5. ติดตั้งหัวเทียนใหม่

ใส่หัวเทียนใหม่เข้าไปในตำแหน่งเดิมและหมุนให้แน่น ใช้ประแจหัวเทียนเพื่อขันให้พอดี ไม่ควรขันจนแน่นมากเกินไป

6. เช็กการทำงาน

สตาร์ทเครื่องยนต์และตรวจสอบว่าเครื่องยนต์ทำงานได้ปกติหรือไม่ หากเครื่องยนต์ทำงานไม่ปกติ ควรเช็กการติดตั้งและหากจำเป็นให้ขอคำปรึกษาจากช่างผู้เชี่ยวชาญ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการ

ข้อควรระวังในการเปลี่ยนหัวเทียน
  • ระวังการขันหัวเทียนแน่นเกินไป

การขันหัวเทียนแน่นเกินไปอาจทำให้เกลียวของหัวเทียนเสียหาย หรือเครื่องยนต์มีปัญหาตามมาได้

  • ตรวจสอบระยะห่างให้ถูกต้อง

ระยะห่างของหัวเทียนที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติหรือเสื่อมเร็ว

  • ระมัดระวังการทำงานใกล้ส่วนที่ร้อน

เมื่อทำการเปลี่ยนหัวเทียน อย่าลืมให้เครื่องยนต์เย็นลงก่อนการทำงาน เพราะการทำงานใกล้เครื่องยนต์ที่ร้อนอาจเกิดอันตรายได้

  • ใช้หัวเทียนที่เหมาะสม

หัวเทียนที่ไม่ตรงกับรุ่นรถอาจทำให้เกิดปัญหากับการจุดระเบิดและการทำงานของเครื่องยนต์

การเปลี่ยนหัวเทียนด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก หากคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสมและความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์ การเปลี่ยนหัวเทียนเองสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก แต่หากไม่มั่นใจ ควรพิจารณานำรถไปให้ช่างทำการเปลี่ยนจะดีกว่า!

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: เลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? แนะนำยางที่เหมาะกับรถคุณที่สุดในปี 2025


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น