(เครดิตรูปภาพ: Freepik)
ขายรถมือสองอย่างไรให้ได้ราคาดีที่สุด?
การขายรถมือสองอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย หลายคนคิดว่าแค่ประกาศขาย แล้วรอคนที่สนใจติดต่อมา ก็สามารถปิดการขายได้ง่าย ๆ แต่ความจริงแล้ว มีเจ้าของรถจำนวนไม่น้อยที่พลาดโอกาสและถูกกดราคา เพราะไม่ได้เตรียมตัวให้ดีพอ เนื่องจากราคาขายรถมือสองไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ยี่ห้อ รุ่น หรือเลขไมล์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาพรถ ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม เช่น ความสะอาดของรถ การดูแลรักษา หรือแม้แต่การมีเอกสารครบถ้วน ปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้รถมือสองดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาในสายตาของผู้ซื้อได้มากกว่าที่คิด ดังนั้น หากคุณอยากขายรถให้ได้ราคาดีที่สุด การวางแผนและเตรียมตัวล่วงหน้าคือกุญแจสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีเตรียมตัวขายรถแบบมือโปร พร้อมแนะนำตัวช่วยที่จะทำให้การขายรถของคุณง่าย ได้ราคาดี และดีลจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เคล็ดลับการดูแลรักษารถให้ดูดีก่อนขาย
การดูแลรถให้อยู่ในสภาพดี ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะอาดภายนอก แต่รวมถึงการเตรียมความพร้อมโดยรวมเพื่อสร้างความประทับใจแรกเห็นและความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ และนี่คือวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้รถของคุณดูดีขึ้นก่อนปล่อยขาย
- ล้างรถให้เงาวับเหมือนใหม่
การล้างรถอย่างพิถีพิถันช่วยให้รถดูใหม่ขึ้นอย่างชัดเจน คุณสามารถเลือกใช้บริการคาร์แคร์มืออาชีพเพื่อความสะดวก หรือล้างรถเองที่บ้านหากมีอุปกรณ์ครบ โดยควรล้างทั้งภายนอก ช่วงล่าง และห้องเครื่องเบื้องต้นเพื่อให้รถดูสะอาดทั้งคัน การเคลือบสีหรือเคลือบแก้วยังช่วยเพิ่มความเงางาม พร้อมช่วยเสริมลุคให้รถดูเหมือนใหม่ และดึงดูดใจผู้ซื้อได้มากขึ้น
- ทำความสะอาดภายในห้องโดยสาร
ความสะอาดภายในมีผลต่อความรู้สึกของผู้ซื้อไม่น้อยกว่าความสะอาดภายนอก ควรดูดฝุ่นพื้นรถ เบาะ ผ้าหุ้มเพดาน และพรมให้เรียบร้อย รวมถึงใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะที่เหมาะสมกับวัสดุเพื่อคืนความสดใส ขจัดกลิ่นอับด้วยน้ำหอมกลิ่นอ่อน ๆ หรือสเปรย์ดับกลิ่น และอย่าลืมเช็ดแผงคอนโซล พวงมาลัย คันเกียร์ ให้สะอาดหมดจด เพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกว่ารถที่กำลังขายเป็นรถที่ได้รับการดูแลอย่างดี
- แก้ไขรอยขีดข่วนเล็กน้อย
รอยขีดข่วนบนตัวถังรถอาจทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่ารถไม่ค่อยได้รับการดูแล หากเป็นรอยเล็ก ๆ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ขัดสีลบออกได้ แต่หากเป็นรอยลึกหรือมีสีถลอก ควรพิจารณาเก็บสีเฉพาะจุดเพื่อความเรียบร้อยก่อนโพสต์ขายรถ
- เปลี่ยนชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เสียหาย
ชิ้นส่วนเล็ก ๆ เช่น ยางปัดน้ำฝน หลอดไฟหน้า-ท้าย หรือฝาครอบล้อ แม้จะดูไม่สำคัญ แต่สามารถสร้างความรู้สึกว่ารถได้รับการดูแลอยู่เสมอ ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชิ้นส่วนเหล่านี้มักไม่สูงนัก แต่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้รถดูพร้อมใช้งานมากขึ้น
- ตรวจเช็กเครื่องยนต์เบื้องต้น
ก่อนขายรถ ควรตรวจเช็กเครื่องยนต์เบื้องต้น เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหากถึงกำหนด ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น น้ำกลั่นแบตเตอรี่ และน้ำมันเบรก อีกทั้งควรดูว่าไฟเตือนหน้าปัดมีขึ้นโชว์หรือไม่ หากมี ควรแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนประกาศขาย
- ถ่ายรูปสวย ๆ เพื่อประกาศขาย
ภาพถ่ายที่สวยงามช่วยให้ประกาศขายรถดูน่าสนใจขึ้นมาก ควรถ่ายในช่วงแสงธรรมชาติ เช่น ตอนเช้าหรือเย็น เพราะแสงนุ่มและไม่จ้าเกินไป ควรถ่ายหลายมุม ได้แก่ ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง ภายในรถ และเครื่องยนต์ พร้อมทั้งถ่ายเลขไมล์และเอกสารสำคัญ เพื่อให้ผู้ซื้อเห็นรายละเอียดครบถ้วน
- เตรียมเอกสารให้พร้อม
การเตรียมเอกสารล่วงหน้าช่วยให้กระบวนการซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารที่ควรเตรียม ได้แก่ เล่มทะเบียนตัวจริง สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ ประวัติการซ่อมบำรุงหรือเช็กระยะ และหากรถยังติดไฟแนนซ์อยู่ ควรตรวจสอบยอดปิดบัญชีกับไฟแนนซ์เพื่อให้ข้อมูลชัดเจนกับผู้ซื้อ
วิธีการตั้งราคาขายที่เหมาะสม
การตั้งราคาขายรถมือสองอาจดูเป็นเรื่องง่าย แค่ตั้งให้สูง ๆ ไว้ก่อน แล้วค่อยลดให้ลูกค้าต่อรองเอา แต่ในความจริงแล้ว การตั้งราคาที่ “เหมาะสม” จะช่วยให้คุณขายรถได้ไวขึ้น และยังมีโอกาสได้ราคาดีโดยไม่ต้องให้ส่วนลดมากเกินไปจนรู้สึกเสียดาย การตั้งราคาขายให้เหมาะสมไม่ใช่แค่การคาดเดาตัวเลข แต่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ทั้งจากตลาด สภาพรถ และความต้องการของผู้ซื้อ โดยปัจจัยสำคัญในการตั้งราคาขายรถ ได้แก่
- ยี่ห้อและรุ่นของรถ
รถบางยี่ห้อ เช่น Toyota, Honda หรือ Isuzu มีตลาดรองรับสูงและราคามือสองไม่ตกเร็ว รุ่นยอดนิยมก็มีแนวโน้มขายง่ายกว่า เช่น Vios, Civic, D-Max, ฯลฯ
- ปีที่ผลิตและเลขไมล์
รถใหม่กว่าจะราคาดีกว่าเสมอ แต่เลขไมล์ก็มีผลมาก หากรถของคุณอายุ 5 ปีแต่เลขไมล์น้อยกว่าปกติ เช่น ไม่เกิน 30,000 กม. ก็สามารถตั้งราคาสูงกว่ารถรุ่นเดียวกันที่ใช้งานหนักได้
- สภาพรถโดยรวม
รอยขีดข่วน สีรถซีด ยางหมดสภาพ หรือกลิ่นบุหรี่ในรถ ล้วนมีผลต่อราคา หากคุณดูแลรถดี มีประวัติการเช็กระยะครบถ้วนก็สามารถใช้เป็นจุดขายและตั้งราคาสูงได้อย่างสมเหตุสมผล
- ประวัติอุบัติเหตุ / การจมน้ำ
รถที่เคยเกิดอุบัติเหตุหนักหรือผ่านการจมน้ำมาจะมีราคาต่ำกว่ารถสภาพปกติอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะซ่อมมาแล้วก็ตาม
- สีรถ
สีเดิมจากโรงงานมักมีราคาดีกว่า สีแปลก สีด้าน หรือรถ Wrap อาจต้องลดราคาลงเพราะลูกค้าบางกลุ่มอาจมองว่าเป็นการเปลี่ยนสีเพื่อปกปิดบางอย่าง
วิธีประเมินราคาขายอย่างแม่นยำ และตัวอย่างการตั้งราคาขาย
ก่อนตั้งราคาขายรถ ควรเริ่มจากการตรวจสอบราคาตลาดโดยค้นหาราคาของรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน และเลขไมล์ใกล้เคียงกันจากเว็บไซต์ขายรถมือสองยอดนิยม เช่น one2car, kaidee, chobrod หรือ Facebook Marketplace ทั้งนี้ควรพิจารณาราคาที่ “ขายออกแล้ว” มากกว่าราคาที่ “ยังอยู่ในตลาด” เพราะจะสะท้อนราคาที่ผู้ซื้อยอมจ่ายจริงมากกว่า นอกจากนี้ หากคุณต้องการตัวเลขเบื้องต้นที่แม่นยำ รวดเร็ว และเชื่อถือได้ Motorist มีบริการประเมินราคารถออนไลน์ฟรี เพียงกรอกรายละเอียดรถ ระบบจะคำนวณราคาอ้างอิงให้ทันที ช่วยให้คุณมีข้อมูลตั้งต้นในการกำหนดราคาขาย
ทั้งนี้ การตั้งราคาตามสภาพรถจะช่วยให้คุณปิดการขายได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสที่ผู้ซื้อจะต่อราคาต่ำเกินไป ขณะเดียวกันยังเพิ่มโอกาสในการขายให้ได้ไวและได้ราคาที่ใกล้เคียงกับที่คุณตั้งใจอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีรถ Toyota Altis ปี 2018 เลขไมล์ 90,000 กิโลเมตร และไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ราคาตลาดเฉลี่ยจากการสำรวจอาจอยู่ที่ 430,000 – 460,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่พบได้ในรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน และเลขไมล์ใกล้เคียงกันในตลาดมือสอง อย่างไรก็ตาม การตั้งราคาไม่ควรอิงแค่ตัวเลขตลาดโดยตรง ยังต้องพิจารณาจาก สภาพจริงของรถด้วย หากรถของคุณได้รับการดูแลอย่างดี สภาพภายนอกและภายในสะอาด ไม่มีรอยขีดข่วน สีไม่ซีด เครื่องยนต์เดินเรียบ เบาะสะอาด แอร์เย็น เอกสารครบถ้วน และมีประวัติการเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจตั้งราคาสูงได้ถึง 460,000 – 470,000 บาท เพื่อสะท้อนความพร้อมและคุณภาพของรถ ซึ่งมีโอกาสทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าจ่ายแพงขึ้นอีกนิด แต่คุ้มกว่า ในทางกลับกัน หากรถของคุณมีข้อด้อย เช่น สีซีดจาง มีรอยขีดข่วนชัดเจน กระจกร้าว ล้อแม็กถลอก หรือภายในมีคราบสกปรก มีกลิ่นอับ หรือมีจุดที่ต้องซ่อมบำรุง ผู้ซื้อจะมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายแฝงที่ต้องนำไปซ่อมภายหลัง ทำให้คุณอาจต้องลดราคาลงมาเหลือประมาณ 420,000 บาท เพื่อให้ราคาสอดคล้องกับสภาพรถจริง และจูงใจให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าได้รับความคุ้มค่าจากราคาที่ลดลงตามสภาพ
ช่องทางการขายรถมือสองที่น่าสนใจ
เมื่อตัดสินใจจะขายรถมือสอง หนึ่งในคำถามที่เจ้าของรถมักสงสัยคือ “ขายรถมือสองที่ไหนดี?” เพราะในปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางให้เลือก ตั้งแต่ขายเองผ่านออนไลน์ ขายให้เต็นท์รถ ไปจนถึงใช้บริการตัวกลางอย่างแพลตฟอร์มรับซื้อรถมือสอง ซึ่งการเลือกช่องทางในการขายรถมือสองเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทั้ง ความเร็วในการขาย และ ราคาที่จะได้รับ ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เจ้าของรถจึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับเวลา ความสะดวก และเป้าหมายของตนเอง
เริ่มจากการ ขายให้เต็นท์รถมือสอง ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด เพราะเจ้าของรถไม่ต้องถ่ายรูป ไม่ต้องลงประกาศ และไม่ต้องคุยกับลูกค้าด้วยตัวเอง เพียงขับรถไปที่เต็นท์ ก็สามารถประเมินราคาและปิดการขายได้ในวันเดียว บางเต็นท์ยังมีบริการปิดไฟแนนซ์ให้ด้วยหากรถยังผ่อนไม่หมด อย่างไรก็ตาม ราคาที่เต็นท์เสนออาจต่ำกว่าราคาตลาดพอสมควร เนื่องจากเต็นท์ต้องบวกกำไรในการขายต่อ และบางแห่งอาจมีค่าดำเนินการหรือค่าโอนแฝง ผู้ขายจึงควรตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบ และหากมีเวลาควรเปรียบเทียบหลาย ๆ แห่งก่อนตัดสินใจ
อีกทางเลือกคือการ ขายเองผ่านเว็บไซต์หรือ Marketplace ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตั้งราคาขายเองและมีโอกาสได้ราคาสูงกว่าการขายให้เต็นท์ โดยเฉพาะหากรถอยู่ในสภาพดี และคุณมีทักษะการเจรจาต่อรอง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องใช้เวลาและความพยายามพอสมควร ผู้ขายต้องถ่ายภาพรถให้สวย ลงประกาศ เขียนรายละเอียด ตอบคำถามลูกค้า นัดดูรถ รวมถึงเผชิญกับความเสี่ยง เช่น ลูกค้ายกเลิกนัดกระทันหัน หรือเจอมิจฉาชีพที่หวังหลอกเอาข้อมูลหรือเงิน จึงควรระวังและมีการตรวจสอบผู้ซื้อเบื้องต้น
บางคนอาจเลือกวิธี ขายผ่านคนรู้จักหรือฝากบอกต่อ เช่น เพื่อน ญาติ หรือเพื่อนร่วมงาน วิธีนี้มีข้อดีคือความเชื่อใจสูง ลดความยุ่งยากในการเจรจา และมักไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าดำเนินการ แต่ข้อเสียคือจำนวนผู้สนใจจะจำกัด และหากรถมีปัญหาภายหลัง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวได้ นอกจากนี้ อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเจอคนที่สนใจจริงและพร้อมซื้อ
สุดท้ายคือการให้บริการรับซื้อรถมือสองออนไลน์ อย่างเช่น Motorist ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสะดวกและโปร่งใส ผู้ขายสามารถกรอกรายละเอียดรถเพื่อประเมินราคาฟรี จากนั้นระบบจะส่งข้อมูลไปยังดีลเลอร์กว่า 1,000 รายที่พร้อมเสนอราคาจริงภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้คุณมีโอกาสได้ราคาสูง และหากตกลงขายแล้ว ยังมีทีมงานช่วยดูแลเรื่องเอกสาร การโอน การตรวจสภาพ และแม้แต่กรณีที่รถยังติดไฟแนนซ์ก็สามารถขายได้
ขายรถมือสองอย่างมั่นใจได้ที่ Motorist
การตั้งราคาขายรถมือสองไม่ควรตั้งตามความรู้สึก แต่ควรอิงจากข้อมูลตลาดจริง ประเมินจากสภาพรถ และเลือกช่องทางขายที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสขายได้ในราคาที่คุณพึงพอใจ และหากคุณอยากลดความยุ่งยาก และขายรถออกได้ไวแบบมืออาชีพ Motorist พร้อมช่วยคุณตั้งแต่เริ่มจนจบ พร้อมดีลเลอร์ที่เสนอราคาจริง ไม่ต้องรอนาน
Motorist คือแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองครบวงจรที่ช่วยให้เจ้าของรถขายรถได้เร็ว ได้ราคาดี และไม่ต้องเจอกับความวุ่นวายแบบเดิม ๆ โดย Motorist จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่จะทำให้การขายรถของคุณเป็นเรื่องง่าย ด้วยเครือข่ายผู้ซื้อที่ครอบคลุมทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือรถตู้
- ประเมินราคาฟรี
- มีดีลเลอร์กว่า 1,000 รายแข่งขันเสนอราคา
- รับข้อเสนอสูงสุดภายใน 1-24 ชั่วโมง
- บริการรับซื้อรถถึงที่ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
- ทีมงานดูแลเอกสารและดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้ครบถ้วน
- สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องพบลูกค้าหรือเดินเรื่องเอง
หากคุณต้องการขายรถให้ได้ราคาที่คุ้มค่าโดยไม่เสียเวลา คลิกเพื่อขายรถกับ Motorist ได้เลยที่นี่
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: รถมือสองของคุณราคาเท่าไหร่? พร้อมแนะนำวิธีเช็คราคาประเมินรถเบื้องต้นด้วยตัวเองง่าย ๆ จากที่บ้าน
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…