ลุยน้ำแล้วเครื่องดับ! ต้องทำอย่างไร?

เผยแพร่โดย เมื่อ
Editors%2 Fimages%2 F1748331821797 Drove+Through+Water+And+The+Engine+Stalled%21+What+Should+You+Do

(เครดิตรูปภาพ: Pexels)

ปัญหาที่คนใช้รถมักเจอในหน้าฝน

โดยเฉพาะในเมืองที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบระบายน้ำ การที่ถนนกลายเป็นแอ่งน้ำเล็ก ๆ หรือมีน้ำท่วมขังระหว่างเส้นทางกลับบ้านเป็นเรื่องปกติ หลายคนอาจจำเป็นต้องลุยน้ำด้วยความจำใจ โดยที่ไม่รู้ว่าระดับน้ำที่ขับผ่านนั้น เสี่ยงเกินไปหรือไม่ ซึ่งอาจตามมาด้วยสถานการณ์ไม่คาดคิดอย่าง เครื่องยนต์ “ดับ” หรือ สตาร์ทไม่ติดอีกเลย

สาเหตุที่ทำให้เครื่องดับเมื่อลุยน้ำ

  • น้ำเข้าสู่ท่อไอดีและห้องเผาไหม้ (Hydro Lock)

เมื่อคุณลุยน้ำลึกโดยที่ระดับน้ำสูงเกินกว่าท่อไอดี น้ำจะถูกดูดเข้าไปในห้องเผาไหม้แทนที่อากาศ ซึ่งน้ำไม่สามารถถูกอัดได้เหมือนอากาศ ทำให้เกิดแรงต้านอย่างรุนแรงจนก้านสูบคด หรือวาล์วงอ ส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างรุนแรง

  • น้ำเข้าระบบไฟฟ้า/กล่อง ECU

รถยนต์สมัยใหม่มีระบบควบคุมที่ซับซ้อนผ่านกล่อง ECU ซึ่งเมื่อโดนน้ำ อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้ระบบควบคุมต่างๆ ทำงานผิดพลาดหรือหยุดทำงานทั้งหมด

  • ไดชาร์จหรือไดสตาร์ทได้รับความเสียหาย

หากไดชาร์จเปียกหรือชำรุด อาจทำให้ไม่มีไฟเลี้ยงระบบ และหากไดสตาร์ทมีปัญหา ก็จะไม่สามารถติดเครื่องใหม่ได้

  • ขั้วแบตเตอรี หรือฟิวส์ลัดวงจร

น้ำที่ไหลเข้าไปยังจุดเชื่อมต่อสายไฟหรือฟิวส์บ็อกซ์อาจทำให้เกิดการลัดวงจร ระบบจ่ายไฟล้มเหลว

วิธีรับมืออย่างถูกต้องเมื่อลุยน้ำแล้วเครื่องดับ

1. หยุดรถทันที

หากรถยังมีแรงเคลื่อนตัว ให้หาจุดจอดที่ปลอดภัยและพ้นจากน้ำ หากเครื่องดับกลางน้ำ ให้ตั้งสติและ “ไม่พยายามสตาร์ทซ้ำ”

2. ปลดเกียร์ว่าง และเข็นออกจากน้ำถ้าทำได้

หากมีผู้ช่วย ควรผลักรถออกจากจุดน้ำท่วมเพื่อให้พ้นอันตรายจากระดับน้ำที่สูงขึ้น

3. ตัดระบบไฟ / ถอดขั้วแบตเตอรี

เพื่อป้องกันการลัดวงจร ควรถอดขั้วแบตหากเข้าถึงได้สะดวก

4. โทรเรียกบริการช่วยเหลือ

หากคุณมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมบริการฉุกเฉิน เช่น บริการลากจูง ควรติดต่อทันที พร้อมแจ้งว่า “รถดับจากการลุยน้ำ”

5. แจ้งประกันภัยทันที

หากมีประกันชั้น 1 ส่วนใหญ่จะครอบคลุมความเสียหายจากน้ำท่วมรวมถึงค่าซ่อมเครื่องยนต์

สิ่งที่ไม่ควรทำโดยเด็ดขาด

อย่าสตาร์ทรถซ้ำทันทีหลังเครื่องดับ เพราะถ้ามีน้ำอยู่ในห้องเผาไหม้ การพยายามสตาร์ทจะเหมือนการบังคับให้เครื่องทำงานทั้งที่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายใน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เครื่อง “พังจริง” จนต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่

เคล็ดลับป้องกันไม่ให้ลุยน้ำแล้วเครื่องพัง

  • หลีกเลี่ยงการลุยน้ำลึกเกิน “ครึ่งล้อ”
  • ขับด้วยเกียร์ต่ำ ไม่เร่งเครื่อง
  • เปิดกระจกลงเล็กน้อยเพื่อตรวจระดับน้ำ
  • หากเห็นรถคันอื่นติดกลางน้ำ อย่าเสี่ยงลุยตาม

เครื่องดับจากลุยน้ำ ป้องกันได้ ถ้าใจเย็นและรู้วิธีรับมือ หัวใจสำคัญคือ “อย่าสตาร์ทรถซ้ำเด็ดขาด” เพราะความเสียหายที่รุนแรงส่วนใหญ่ เกิดจากการพยายามติดเครื่องซ้ำหลังจากมีน้ำเข้าเครื่องยนต์

การเรียนรู้วิธีรับมือ และการรู้จักพฤติกรรมเสี่ยงของการขับรถหน้าฝน จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและประหยัดเงินค่าซ่อมรถได้นั่นเอง!

0 ความคิดเห็น