วิธีทำความสะอาดรถหลังเจอฝนกรด ลดความเสี่ยงสีซีดจาง!

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1749093719545 1749093719544

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

ฝนกรดคืออะไร? ทำไมถึงเป็นภัยต่อสีรถ?

ฝนกรด (Acid Rain) เกิดจากมลพิษในอากาศ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่ถูกปล่อยจากรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม หรือแหล่งเผาไหม้ต่าง ๆ ลอยขึ้นไปจับตัวกับไอน้ำในบรรยากาศ แล้วตกลงมาในรูปของฝนที่มีค่า pH ต่ำกว่าปกติ

ฝนกรดทำร้ายสีรถอย่างไร?

  • ทำให้ชั้นเคลือบแลคเกอร์หรือแว็กซ์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
  • เกิดรอยด่าง รอยคราบฝังลึกบนพื้นผิวรถ
  • เร่งปฏิกิริยาออกซิเดชันบนชั้นผิวรถ ทำให้สีซีดจางและหมองไว
  • หากทิ้งไว้โดยไม่ล้าง อาจเกิดการกัดกร่อนกับพื้นผิวโลหะ

วิธีดูว่ารถเจอฝนกรดหรือไม่

  • หลังฝนหยุด สังเกตที่กระจกหรือผิวรถ: มีคราบขาวเป็นจุด ๆ หรือรอยวงน้ำแห้งชัดเจน
  • รู้สึกว่าพื้นผิวสาก ไม่เรียบลื่นเหมือนเดิม
  • คราบฝนฝังแน่น แม้ใช้ผ้าเช็ดก็ยังเห็นอยู่

วิธีล้างรถอย่างถูกต้องหลังเจอฝนกรด

1. ล้างรถทันทีหลังฝนหยุด หรือภายใน 1-2 ชั่วโมง

ยิ่งล้างเร็ว ยิ่งลดโอกาสการฝังตัวของสารเคมี

2. ใช้น้ำเปล่าล้างฝุ่นและคราบเบื้องต้นก่อน

อย่าเช็ดคราบฝนด้วยผ้าแห้ง เพราะอาจขูดพื้นผิวและเกิดรอยขีดข่วน

3. ใช้น้ำยาล้างรถโดยเฉพาะ

หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป เพราะมีฤทธิ์เป็นด่างสูง อาจกัดสีรถ

4. ใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่ม เช็ดตามแนวยาว ไม่วนเป็นวงกลม

5. เช็ดให้แห้งทันทีด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์

การปล่อยให้แห้งเองจะทำให้คราบฝนกรดระเหยและทิ้งคราบรอยวงน้ำ

6. ลงแว็กซ์หรือเคลือบสีหลังล้าง (ถ้าเป็นไปได้)

เพื่อฟื้นฟูชั้นเคลือบปกป้องสีรถ และลดผลกระทบจากฝนในครั้งต่อไป

เคล็ดลับป้องกันระยะยาว

  • เคลือบสีหรือเคลือบแก้วอย่างสม่ำเสมอ (ทุก 2–3 เดือน)
  • หลีกเลี่ยงการจอดกลางแจ้งนาน ๆ โดยเฉพาะหลังฝนตก
  • พกร่มรถหรือผ้าคลุมรถกัน UV ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
  • หากขับผ่านพื้นที่อุตสาหกรรมหรือมีควันดำ ควรรีบล้างรถเร็วขึ้น

ฝนกรดอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ส่งผลเสียต่อสีรถชัดเจน หากคุณล้างรถให้ถูกวิธีและทันเวลา จะช่วยยืดอายุสีรถให้เงางามได้ยาวนานหลายปีเลยทีเดียว

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: 5 เหตุผลทำไมปี 2025 ควรซื้อ “รถมือสอง” มากกว่ารถใหม่


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น