(เครดิตรูปภาพ: Freepik)
เบาะรถยนต์ไม่เพียงแค่เป็นที่นั่ง แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่สร้างความสวยงามและความรู้สึกภายในห้องโดยสาร
การดูแลรักษาความสะอาดเบาะอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้รถของคุณดูดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังที่หรูหราหรือเบาะผ้าที่ดูแลรักษาง่ายกว่า มาดูวิธีการทำความสะอาดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภทกันเลย!
การทำความสะอาดเบาะหนัง
เบาะหนังให้ความรู้สึกหรูหราและทำความสะอาดคราบที่หกได้ง่าย แต่ก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันหนังแห้งแตกหรือซีดจาง
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก
- ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่ม 2-3 ผืน
- น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ
- น้ำยาบำรุงรักษาเบาะหนัง
- แปรงขนอ่อนนุ่ม (สำหรับขัดคราบฝังแน่นในร่องตะเข็บ)
- น้ำเปล่าสะอาด
ขั้นตอนการทำความสะอาด
- ดูดฝุ่น: ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษฝุ่นผง ขนสัตว์ หรือสิ่งสกปรกออกจากเบาะให้หมดจด โดยเฉพาะตามร่องตะเข็บและซอกเบาะ
- เช็ดทำความสะอาดเบื้องต้น: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ บิดให้แห้งที่สุด แล้วเช็ดคราบสกปรกเบาๆ ทั่วทั้งเบาะ การเช็ดด้วยน้ำเปล่าจะช่วยกำจัดคราบสกปรกที่ไม่ฝังแน่น
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนัง
- ฉีดน้ำยาลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ (ไม่ควรฉีดลงบนเบาะโดยตรง)
- เช็ดเบาๆ เป็นส่วนๆ: เช็ดทำความสะอาดทีละส่วน เริ่มจากส่วนเล็กๆ ก่อนเพื่อทดสอบว่าน้ำยาไม่ทำให้หนังเสียหาย
- ใช้แปรงขนอ่อนนุ่ม: หากมีคราบฝังแน่นในร่องตะเข็บ ให้ฉีดน้ำยาลงบนแปรงขนอ่อน แล้วขัดเบาๆ เพื่อให้คราบหลุดออก
- เช็ดน้ำยาออก: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดอีกผืนชุบน้ำหมาดๆ เช็ดคราบน้ำยาออกให้หมดจด
4. บำรุงรักษาด้วยน้ำยาบำรุงเบาะหนัง:
- หลังจากเช็ดทำความสะอาดจนเบาะแห้งสนิท ให้ฉีดน้ำยาบำรุงเบาะหนังลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์
- ลูบไล้ให้ทั่วเบาะอย่างสม่ำเสมอ: น้ำยาจะช่วยคืนความชุ่มชื้น ป้องกันหนังแห้งแตก และสร้างชั้นฟิล์มปกป้อง
- ปล่อยให้แห้ง: ทิ้งไว้ให้แห้งตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์
ข้อควรระวังสำหรับเบาะหนัง
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่รุนแรง: เช่น น้ำยาเช็ดกระจก, ผงซักฟอก, หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ เพราะอาจทำลายสารเคลือบหรือทำให้หนังแห้งแตก
- อย่าปล่อยให้เบาะเปียกชื้นนานๆ: อาจทำให้เกิดเชื้อราหรือกลิ่นอับ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน: ควรจอดในที่ร่ม หรือใช้ม่านบังแดด เพื่อป้องกันหนังซีดและแห้งแตก
การทำความสะอาดเบาะผ้า
เบาะผ้าอาจจะกักเก็บฝุ่นและคราบสกปรกได้ง่ายกว่าเบาะหนัง แต่ก็มีวิธีการทำความสะอาดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เครื่องดูดฝุ่นกำลังสูง
- แปรงขัดเบาะ (แปรงขนแข็งปานกลาง หรือแปรงสำหรับทำความสะอาดเบาะผ้าโดยเฉพาะ)
- ผ้าไมโครไฟเบอร์ 2-3 ผืน
- น้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้าโดยเฉพาะ หรือน้ำยาซักพรม
- น้ำเปล่าสะอาด
- ขวดสเปรย์เปล่า (สำหรับใส่น้ำเปล่า)
ขั้นตอนการทำความสะอาด
1. ดูดฝุ่นอย่างละเอียด ด้วยเครื่องดูดฝุ่น เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก และคราบแห้งออกจากเบาะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2. กำจัดคราบเฉพาะจุด (ถ้ามี)
- สำหรับคราบเหลวที่เพิ่งหก: ใช้ผ้าสะอาดซับออกทันที อย่าถู เพราะจะทำให้คราบกระจาย
- สำหรับคราบแห้ง: อาจใช้แปรงขนแข็งปัดเบาๆ เพื่อให้เศษคราบหลุดออก
3. ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้า
- ทดสอบน้ำยา: ฉีดน้ำยาลงบนจุดอับสายตาของเบาะเล็กน้อยก่อน เพื่อทดสอบว่าไม่ทำให้สีผ้าซีดจางหรือเกิดคราบ
- ฉีดน้ำยาให้ทั่วบริเวณที่มีคราบ: หรือฉีดให้ทั่วทั้งเบาะหากต้องการทำความสะอาดทั้งผืน
- ใช้แปรงขัด: ใช้แปรงขัดเบาะ ขัดเบาๆ เป็นวงกลมให้ทั่วบริเวณที่ฉีดน้ำยา เพื่อให้น้ำยาซึมเข้ากำจัดคราบ
- พักทิ้งไว้: ปล่อยให้น้ำยาทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกตามเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ (โดยปกติ 2-5 นาที)
4. เช็ดน้ำยาและคราบสกปรกออก
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำสะอาดบิดหมาดๆ เช็ดคราบน้ำยาและสิ่งสกปรกออกให้หมดจด
- ล้างผ้าบ่อยๆ: เมื่อผ้าสกปรก ให้ล้างผ้าให้สะอาด บิดหมาด แล้วเช็ดซ้ำจนแน่ใจว่าไม่มีคราบน้ำยาหลงเหลือ
5. ดูดความชื้น (ถ้ามีเครื่อง)
- หากมีเครื่องดูดน้ำ หรือเครื่องซักเบาะโดยเฉพาะ จะช่วยดูดน้ำยาและความชื้นออกจากเบาะได้ดีเยี่ยม ทำให้เบาะแห้งเร็วและไม่เกิดกลิ่นอับ
6. ปล่อยให้แห้งสนิท โดยอาจเปิดประตูรถทิ้งไว้ หรือเปิดแอร์และพัดลมช่วยเป่า เพื่อให้เบาะแห้งสนิท ป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ
ข้อควรระวังสำหรับเบาะผ้า
- อย่าเทน้ำยาลงบนเบาะโดยตรงมากเกินไป: อาจทำให้เบาะอมน้ำและแห้งยาก นำไปสู่กลิ่นอับและเชื้อรา
- ทดสอบน้ำยาก่อนเสมอ: เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสีและเนื้อผ้า
- หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจัดในการทำให้แห้ง: ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ หรือใช้ลมเย็น
- หากมีคราบฝังแน่นมาก: ควรปรึกษาร้านคาร์แคร์ที่มีบริการซักเบาะโดยเฉพาะ
การดูแลรักษาเบาะรถยนต์เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังหรือเบาะผ้า จะช่วยรักษาสภาพห้องโดยสารให้ดูสะอาด น่าใช้ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความสบายครับ
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: เบาะรถยนต์เปียกทำอย่างไรให้แห้งเร็ว ไม่เป็นคราบ ไม่เหม็นอับ
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…