เบาะหนัง เบาะผ้า ทำความสะอาดยังไงดี?

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1751453129057 1751453129057

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

เบาะรถยนต์ไม่เพียงแค่เป็นที่นั่ง แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่สร้างความสวยงามและความรู้สึกภายในห้องโดยสาร

การดูแลรักษาความสะอาดเบาะอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้รถของคุณดูดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังที่หรูหราหรือเบาะผ้าที่ดูแลรักษาง่ายกว่า มาดูวิธีการทำความสะอาดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภทกันเลย!

การทำความสะอาดเบาะหนัง 

เบาะหนังให้ความรู้สึกหรูหราและทำความสะอาดคราบที่หกได้ง่าย แต่ก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันหนังแห้งแตกหรือซีดจาง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก
  • ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่ม 2-3 ผืน
  • น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ 
  • น้ำยาบำรุงรักษาเบาะหนัง 
  • แปรงขนอ่อนนุ่ม (สำหรับขัดคราบฝังแน่นในร่องตะเข็บ)
  • น้ำเปล่าสะอาด

ขั้นตอนการทำความสะอาด

  1. ดูดฝุ่น: ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษฝุ่นผง ขนสัตว์ หรือสิ่งสกปรกออกจากเบาะให้หมดจด โดยเฉพาะตามร่องตะเข็บและซอกเบาะ
  2. เช็ดทำความสะอาดเบื้องต้น: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ บิดให้แห้งที่สุด แล้วเช็ดคราบสกปรกเบาๆ ทั่วทั้งเบาะ การเช็ดด้วยน้ำเปล่าจะช่วยกำจัดคราบสกปรกที่ไม่ฝังแน่น
  3. ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนัง
      • ฉีดน้ำยาลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ (ไม่ควรฉีดลงบนเบาะโดยตรง)
      • เช็ดเบาๆ เป็นส่วนๆ: เช็ดทำความสะอาดทีละส่วน เริ่มจากส่วนเล็กๆ ก่อนเพื่อทดสอบว่าน้ำยาไม่ทำให้หนังเสียหาย
      • ใช้แปรงขนอ่อนนุ่ม: หากมีคราบฝังแน่นในร่องตะเข็บ ให้ฉีดน้ำยาลงบนแปรงขนอ่อน แล้วขัดเบาๆ เพื่อให้คราบหลุดออก
      • เช็ดน้ำยาออก: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดอีกผืนชุบน้ำหมาดๆ เช็ดคราบน้ำยาออกให้หมดจด

4. บำรุงรักษาด้วยน้ำยาบำรุงเบาะหนัง:

      • หลังจากเช็ดทำความสะอาดจนเบาะแห้งสนิท ให้ฉีดน้ำยาบำรุงเบาะหนังลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์
      • ลูบไล้ให้ทั่วเบาะอย่างสม่ำเสมอ: น้ำยาจะช่วยคืนความชุ่มชื้น ป้องกันหนังแห้งแตก และสร้างชั้นฟิล์มปกป้อง
      • ปล่อยให้แห้ง: ทิ้งไว้ให้แห้งตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์

ข้อควรระวังสำหรับเบาะหนัง

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่รุนแรง: เช่น น้ำยาเช็ดกระจก, ผงซักฟอก, หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ เพราะอาจทำลายสารเคลือบหรือทำให้หนังแห้งแตก
  • อย่าปล่อยให้เบาะเปียกชื้นนานๆ: อาจทำให้เกิดเชื้อราหรือกลิ่นอับ
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน: ควรจอดในที่ร่ม หรือใช้ม่านบังแดด เพื่อป้องกันหนังซีดและแห้งแตก

การทำความสะอาดเบาะผ้า 

เบาะผ้าอาจจะกักเก็บฝุ่นและคราบสกปรกได้ง่ายกว่าเบาะหนัง แต่ก็มีวิธีการทำความสะอาดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • เครื่องดูดฝุ่นกำลังสูง
  • แปรงขัดเบาะ (แปรงขนแข็งปานกลาง หรือแปรงสำหรับทำความสะอาดเบาะผ้าโดยเฉพาะ)
  • ผ้าไมโครไฟเบอร์ 2-3 ผืน
  • น้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้าโดยเฉพาะ หรือน้ำยาซักพรม
  • น้ำเปล่าสะอาด
  • ขวดสเปรย์เปล่า (สำหรับใส่น้ำเปล่า)

ขั้นตอนการทำความสะอาด

1. ดูดฝุ่นอย่างละเอียด ด้วยเครื่องดูดฝุ่น เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก และคราบแห้งออกจากเบาะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

2. กำจัดคราบเฉพาะจุด (ถ้ามี)

      • สำหรับคราบเหลวที่เพิ่งหก: ใช้ผ้าสะอาดซับออกทันที อย่าถู เพราะจะทำให้คราบกระจาย
      • สำหรับคราบแห้ง: อาจใช้แปรงขนแข็งปัดเบาๆ เพื่อให้เศษคราบหลุดออก

3. ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้า

      • ทดสอบน้ำยา: ฉีดน้ำยาลงบนจุดอับสายตาของเบาะเล็กน้อยก่อน เพื่อทดสอบว่าไม่ทำให้สีผ้าซีดจางหรือเกิดคราบ
      • ฉีดน้ำยาให้ทั่วบริเวณที่มีคราบ: หรือฉีดให้ทั่วทั้งเบาะหากต้องการทำความสะอาดทั้งผืน
      • ใช้แปรงขัด: ใช้แปรงขัดเบาะ ขัดเบาๆ เป็นวงกลมให้ทั่วบริเวณที่ฉีดน้ำยา เพื่อให้น้ำยาซึมเข้ากำจัดคราบ
      • พักทิ้งไว้: ปล่อยให้น้ำยาทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกตามเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ (โดยปกติ 2-5 นาที)

4. เช็ดน้ำยาและคราบสกปรกออก

      • ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำสะอาดบิดหมาดๆ เช็ดคราบน้ำยาและสิ่งสกปรกออกให้หมดจด
      • ล้างผ้าบ่อยๆ: เมื่อผ้าสกปรก ให้ล้างผ้าให้สะอาด บิดหมาด แล้วเช็ดซ้ำจนแน่ใจว่าไม่มีคราบน้ำยาหลงเหลือ

5. ดูดความชื้น (ถ้ามีเครื่อง)

  • หากมีเครื่องดูดน้ำ หรือเครื่องซักเบาะโดยเฉพาะ จะช่วยดูดน้ำยาและความชื้นออกจากเบาะได้ดีเยี่ยม ทำให้เบาะแห้งเร็วและไม่เกิดกลิ่นอับ

6. ปล่อยให้แห้งสนิท โดยอาจเปิดประตูรถทิ้งไว้ หรือเปิดแอร์และพัดลมช่วยเป่า เพื่อให้เบาะแห้งสนิท ป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ

ข้อควรระวังสำหรับเบาะผ้า

  • อย่าเทน้ำยาลงบนเบาะโดยตรงมากเกินไป: อาจทำให้เบาะอมน้ำและแห้งยาก นำไปสู่กลิ่นอับและเชื้อรา
  • ทดสอบน้ำยาก่อนเสมอ: เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสีและเนื้อผ้า
  • หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจัดในการทำให้แห้ง: ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ หรือใช้ลมเย็น
  • หากมีคราบฝังแน่นมาก: ควรปรึกษาร้านคาร์แคร์ที่มีบริการซักเบาะโดยเฉพาะ

การดูแลรักษาเบาะรถยนต์เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังหรือเบาะผ้า จะช่วยรักษาสภาพห้องโดยสารให้ดูสะอาด น่าใช้ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความสบายครับ

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: เบาะรถยนต์เปียกทำอย่างไรให้แห้งเร็ว ไม่เป็นคราบ ไม่เหม็นอับ


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น