จริงหรือไม่? "น้ำยาแอร์รถหมด" ไม่มีอยู่จริง

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1755514642374 Did+You+Know+Car+Air+Conditioner+Refrigerant+Never+%E2%80%9 C Runs+Out%E2%80%9 D+On+Its+Own

(เครดิตรูปภาพ: Freepik)

หลายคนอาจเคยเจอปัญหาแอร์รถไม่เย็น แล้วรีบสรุปว่า “น้ำยาแอร์หมด”

แต่รู้หรือไม่ว่าคำนี้ไม่ถูกต้องนัก เพราะจริงๆ แล้ว น้ำยาแอร์รถยนต์ไม่ได้ “หมด” ไปเองเหมือนน้ำมันหรือของเหลวอื่นๆ มาดูกันว่าความจริงแล้วเกิดอะไรขึ้น

น้ำยาแอร์ทำไมถึงไม่หมดเอง?

ระบบแอร์รถยนต์ถูกออกแบบให้เป็นระบบปิด หมายความว่าน้ำยาแอร์จะหมุนเวียนอยู่ภายใน ไม่ระเหยหรือพร่องไปเอง หากทุกอย่างยังสมบูรณ์ น้ำยาแอร์สามารถอยู่ได้ตลอดอายุการใช้งานของรถโดยไม่จำเป็นต้องเติมเพิ่ม

ดังนั้น หากมีกรณีที่น้ำยาแอร์พร่องหรือหายไป สาเหตุที่แท้จริงคือ มีรอยรั่วในระบบแอร์ ไม่ใช่ว่าน้ำยา “หมด” ตามการใช้งาน

สาเหตุที่ทำให้น้ำยาแอร์รั่ว

  1. รอยรั่วในท่อหรือข้อต่อแอร์ – ท่อแตกหรือรอยต่อหลวมทำให้น้ำยาแอร์ซึมออก
  2. อุปกรณ์เสื่อมสภาพ – เช่น คอมเพรสเซอร์แอร์ คอยล์แอร์ หรือซีลต่างๆ ที่หมดอายุการใช้งาน
  3. การซ่อมบำรุงที่ไม่สมบูรณ์ – บางครั้งเมื่อต้องปล่อยน้ำยาแอร์ออกเพื่อซ่อม หากช่างไม่เติมกลับในปริมาณที่เหมาะสม ก็อาจทำให้แรงดันไม่เพียงพอ ส่งผลให้แอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร

อาการที่บ่งบอกว่าน้ำยาแอร์อาจรั่ว

  • แอร์เย็นน้อยลง ใช้เวลานานกว่าปกติในการทำความเย็น
  • มีแต่ลมไม่เย็น ลมออกมาปกติแต่ไม่เย็นเหมือนเดิม
  • คอมเพรสเซอร์ทำงานบ่อย เนื่องจากพยายามรักษาความเย็น
  • มีเสียงดังผิดปกติ จากคอมเพรสเซอร์หรืออุปกรณ์ในระบบแอร์

สิ่งที่ควรทำเมื่อแอร์ไม่เย็น

หากเจออาการเหล่านี้ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า “แค่เติมน้ำยาแอร์” แต่ควรนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการหรืออู่ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อหาต้นเหตุรอยรั่วและแก้ไขอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแม้เติมน้ำยาเพิ่มไป ก็อาจรั่วซ้ำอีก

สรุป

“น้ำยาแอร์หมด” ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นสัญญาณว่าระบบแอร์มีปัญหา หากดูแลและตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำ จะช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ในอนาคต และทำให้ระบบทำความเย็นใช้งานได้ยาวนานขึ้น

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: กลิ่นปรับอากาศรถแบบไหน เหมาะกับคาแรกเตอร์ของคุณ?


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น