(เครดิตรูปภาพ: Freepik)
หลายคนอาจเคยเจอปัญหาแอร์รถไม่เย็น แล้วรีบสรุปว่า “น้ำยาแอร์หมด”
แต่รู้หรือไม่ว่าคำนี้ไม่ถูกต้องนัก เพราะจริงๆ แล้ว น้ำยาแอร์รถยนต์ไม่ได้ “หมด” ไปเองเหมือนน้ำมันหรือของเหลวอื่นๆ มาดูกันว่าความจริงแล้วเกิดอะไรขึ้น
น้ำยาแอร์ทำไมถึงไม่หมดเอง?
ระบบแอร์รถยนต์ถูกออกแบบให้เป็นระบบปิด หมายความว่าน้ำยาแอร์จะหมุนเวียนอยู่ภายใน ไม่ระเหยหรือพร่องไปเอง หากทุกอย่างยังสมบูรณ์ น้ำยาแอร์สามารถอยู่ได้ตลอดอายุการใช้งานของรถโดยไม่จำเป็นต้องเติมเพิ่ม
ดังนั้น หากมีกรณีที่น้ำยาแอร์พร่องหรือหายไป สาเหตุที่แท้จริงคือ มีรอยรั่วในระบบแอร์ ไม่ใช่ว่าน้ำยา “หมด” ตามการใช้งาน
สาเหตุที่ทำให้น้ำยาแอร์รั่ว
- รอยรั่วในท่อหรือข้อต่อแอร์ – ท่อแตกหรือรอยต่อหลวมทำให้น้ำยาแอร์ซึมออก
- อุปกรณ์เสื่อมสภาพ – เช่น คอมเพรสเซอร์แอร์ คอยล์แอร์ หรือซีลต่างๆ ที่หมดอายุการใช้งาน
- การซ่อมบำรุงที่ไม่สมบูรณ์ – บางครั้งเมื่อต้องปล่อยน้ำยาแอร์ออกเพื่อซ่อม หากช่างไม่เติมกลับในปริมาณที่เหมาะสม ก็อาจทำให้แรงดันไม่เพียงพอ ส่งผลให้แอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร
อาการที่บ่งบอกว่าน้ำยาแอร์อาจรั่ว
- แอร์เย็นน้อยลง ใช้เวลานานกว่าปกติในการทำความเย็น
- มีแต่ลมไม่เย็น ลมออกมาปกติแต่ไม่เย็นเหมือนเดิม
- คอมเพรสเซอร์ทำงานบ่อย เนื่องจากพยายามรักษาความเย็น
- มีเสียงดังผิดปกติ จากคอมเพรสเซอร์หรืออุปกรณ์ในระบบแอร์
สิ่งที่ควรทำเมื่อแอร์ไม่เย็น
หากเจออาการเหล่านี้ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า “แค่เติมน้ำยาแอร์” แต่ควรนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการหรืออู่ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อหาต้นเหตุรอยรั่วและแก้ไขอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแม้เติมน้ำยาเพิ่มไป ก็อาจรั่วซ้ำอีก
สรุป
“น้ำยาแอร์หมด” ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นสัญญาณว่าระบบแอร์มีปัญหา หากดูแลและตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำ จะช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ในอนาคต และทำให้ระบบทำความเย็นใช้งานได้ยาวนานขึ้น
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: กลิ่นปรับอากาศรถแบบไหน เหมาะกับคาแรกเตอร์ของคุณ?
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…