Keyless Entry และ Push Start มีความเสี่ยงโดนแฮ็กจริงไหม?

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1755670083176 1755670083175

(เครดิตรูปภาพ: motorpoint)

ระบบ Keyless Entry และ Push Start คืออะไร?

ในยุคปัจจุบัน รถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นมาพร้อมกับระบบอำนวยความสะดวกที่เรียกว่า Keyless Entry และ Push Start โดยผู้ขับไม่จำเป็นต้องเสียบกุญแจหรือแม้แต่หยิบกุญแจออกจากกระเป๋า ก็สามารถปลดล็อกรถ สตาร์ทเครื่องยนต์ และขับรถออกไปได้ทันที

ระบบนี้ทำงานโดยใช้สัญญาณวิทยุคลื่นความถี่เฉพาะที่ส่งระหว่าง “กุญแจรีโมต” (Key Fob) กับตัวรถ เมื่อผู้ถือกุญแจเข้าใกล้รถ ระบบจะตรวจจับและปลดล็อกโดยอัตโนมัติ จากนั้นผู้ขับเพียงกดปุ่ม Push Start ก็สามารถสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจออกมาให้เสียเวลากันเลยทีเดียว

ถึงแม้จะฟังดูสะดวกและทันสมัย แต่ก็มักจะมีคำถามตามมาว่า เทคโนโลยีนี้ “ปลอดภัยจริงหรือไม่?” และ “มีโอกาสโดนแฮ็กหรือขโมยรถหรือเปล่า?”

ความเสี่ยงที่ระบบ Keyless Entry และ Push Start อาจเจอ

แม้เทคโนโลยี Keyless จะพัฒนามาไกล แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีข่าวการแฮ็กหรือขโมยรถยนต์ที่ใช้ระบบนี้อยู่บ่อยครั้ง โดยมีวิธีที่ผู้ไม่หวังดีนิยมใช้ดังนี้

1. Relay Attack

นี่คือเทคนิคที่พบบ่อยที่สุด คนร้ายจะใช้เครื่องรับ-ส่งสัญญาณจับคลื่นจากกุญแจรีโมตที่อยู่ในบ้าน แล้วส่งต่อไปยังรถ ทำให้รถเข้าใจผิดว่ากุญแจอยู่ใกล้ จึงปลดล็อกและสตาร์ทได้ ทั้งที่เจ้าของรถยังอยู่ในบ้าน

2. Signal Amplification

อุปกรณ์บางอย่างสามารถ “ขยาย” สัญญาณจากกุญแจให้ไกลกว่าปกติ คนร้ายสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อปลดล็อกรถที่จอดไว้ไกลจากตัวเจ้าของ

3. Key Cloning

หากคนร้ายเข้าถึงกุญแจได้ชั่วคราว เช่น ฝากรถไว้กับคนแปลกหน้า พวกเขาอาจใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อคัดลอกข้อมูลจากกุญแจ และสร้างกุญแจใหม่ที่ใช้งานได้เหมือนของจริงขึ้นมาอีกอันได้นั่นเอง

ระบบนี้ปลอดภัยหรือไม่?

แม้ว่าจะมีช่องโหว่ตามที่กล่าวมา แต่ผู้ผลิตรถยนต์ก็มีการพัฒนาและปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยของ Keyless Entry อย่างต่อเนื่อง เช่น การเข้ารหัสแบบ Rolling Code ที่เปลี่ยนรหัสใหม่ทุกครั้งที่ใช้ และระบบ Timeout ที่จำกัดเวลาในการตรวจจับกุญแจ

นอกจากนี้ รถบางรุ่นยังมีฟังก์ชันเสริม เช่น การแจ้งเตือนเมื่อกุญแจอยู่นอกระยะหรือเมื่อประตูยังไม่ล็อก ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ทันทีหากเกิดความผิดปกติ

วิธีป้องกันไม่ให้ระบบถูกแฮ็ก

  1. เก็บกุญแจไว้ในที่ปลอดภัย เช่น กล่องเก็บกุญแจแบบป้องกันคลื่น (Faraday Box)
  2. ไม่ทิ้งกุญแจใกล้ประตูบ้านหรือหน้าต่างที่อยู่ใกล้รถ
  3. ปิดระบบ Keyless ในตอนกลางคืนหรือเมื่อไม่จำเป็น
  4. อัปเดตซอฟต์แวร์รถเป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
  5. ใช้พวงกุญแจแบบ Passive หรือระบบ Key Card หากรถรองรับ

ระบบ Keyless Entry และ Push Start เป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานรถอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปราศจากความเสี่ยงเสียทีเดียว ผู้ใช้ควรตระหนักถึงวิธีที่ผู้ไม่หวังดีจะใช้ และหาวิธีป้องกันล่วงหน้า หากใช้อย่างระมัดระวังและอัปเดตระบบอยู่เสมอ ก็จะสามารถลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อได้อย่างแน่นอน!

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: ระบบ e-Pedal ในรถ EV คืออะไร? ขับรถได้โดยไม่ต้องเหยียบเบรก!


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น