(เครดิตรูปภาพ : Apollo Tyres)
ยางรถยนต์ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่สัมผัสพื้นถนนโดยตรง แม้รถของคุณจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์เพียงใด แต่ถ้ายางเสื่อมสภาพ ก็อาจทำให้สมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยลดลงได้ ยางที่หมดอายุจะมีเนื้อยางแข็ง กระด้าง ดอกยางสึก และอาจเกิดอุบัติเหตุ เช่น ยางระเบิด หรือการเกาะถนนที่ไม่ดีในสภาพถนนเปียก
ดังนั้น ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้วิธีตรวจสอบว่ายางรถยนต์หมดอายุแล้วหรือยัง และวิธีดูปีที่ผลิตยางอย่างถูกต้องนั่นเอง
อายุการใช้งานของยางรถยนต์
โดยทั่วไป ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานเฉลี่ย ประมาณ 4–5 ปี นับจากวันที่ผลิต แม้ดอกยางยังเหลืออยู่มาก แต่เนื้อยางอาจเสื่อมสภาพจากแสงแดด ความร้อน และสภาพแวดล้อม ทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนลดลง
กรณีที่ใช้งานหนัก ขับรถบ่อย หรือเจอสภาพถนนขรุขระ ยางอาจเสื่อมเร็วกว่าปกติ ขณะที่รถที่จอดทิ้งไว้ตากแดดนาน ๆ ยางก็เสื่อมได้เช่นกัน
วิธีดูว่ายางรถยนต์หมดอายุแล้ว
-
สังเกตสภาพภายนอกยาง
มีรอยแตกร้าวบริเวณแก้มยางหรือเนื้อยาง
เนื้อยางแข็งและกระด้างกว่าปกติ
ดอกยางสึกถึงสัญลักษณ์ Tread Wear Indicator (TWI)
-
ดูปีที่ผลิตจากรหัส DOT
ยางทุกเส้นจะมีรหัส DOT อยู่ที่แก้มยาง เป็นรหัสมาตรฐานสากลที่บอกทั้งแหล่งผลิต รุ่น และ สัปดาห์/ปีที่ผลิต ตัวเลขปีผลิตจะอยู่ท้ายสุดของรหัส DOT ตัวอย่างเช่น2721 = ผลิตในสัปดาห์ที่ 27 ของปี 2021
1019 = ผลิตในสัปดาห์ที่ 10 ของปี 2019
โดยปกติ รหัสนี้จะมี 4 หลัก (เฉพาะยางที่ผลิตหลังปี 2000) หากเป็นยางรุ่นเก่ากว่านั้นจะมีเพียง 3 หลัก ซึ่งปัจจุบันแทบไม่พบแล้ว
อายุการใช้งานนับจากปีที่ผลิต ไม่ใช่ปีที่ซื้อ ยางที่ผลิตมานานแต่ยังไม่ได้ใช้งาน หากเก็บไม่ดีอาจเสื่อมได้เช่นกัน ดังนั้นควรเลือกยางที่ผลิตไม่เกิน 1 ปีจากวันที่ซื้อ
คำแนะนำในการเปลี่ยนยาง
เปลี่ยนยางทุก 4–5 ปี แม้ว่าดอกยางจะยังไม่หมด เพื่อความปลอดภัย
ตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ และเช็กดอกยางทุก 10,000 กิโลเมตร
หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน เพราะทำให้ยางเสื่อมเร็ว
หากพบว่ายางมีรอยบวม แตกร้าว หรือเสียรูป ควรรีบเปลี่ยนทันที
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: เลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? แนะนำยางที่เหมาะกับรถคุณที่สุดในปี 2025
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…