(เครดิตรูปภาพ: AutoNation)
หนึ่งในสถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุดเวลาขับรถก็คือ “ยางแตก” เพราะอาจเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว และถ้าควบคุมรถไม่ดีพออาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แต่จริง ๆ แล้ว หากเรารู้สัญญาณเตือนตั้งแต่แรก จะช่วยให้รับมือได้ดีกว่าและปลอดภัยมากขึ้น
1. พวงมาลัยสั่นหรือดึงไปข้างใดข้างหนึ่ง
หากยางแตกหรือยางรั่วอย่างรุนแรง พวงมาลัยมักจะดึงไปด้านที่ยางมีปัญหาอย่างชัดเจน หรือรู้สึกสั่นแรงผิดปกติ ถ้าเจออาการแบบนี้ให้ค่อย ๆ ประคองรถเข้าข้างทางทันที
2. เสียงดัง “ปัง!”
หลายครั้งที่ยางแตกจะได้ยินเสียงดังชัดเจนคล้ายระเบิดเล็ก ๆ หลังจากนั้นรถจะเสียสมดุลเล็กน้อย ถ้าได้ยินเสียงแบบนี้อย่าตกใจ แต่ให้จับพวงมาลัยให้มั่นและชะลอความเร็วอย่างระมัดระวัง
3. รถเอียงหรือควบคุมยากขึ้น
เมื่อยางแตก รถจะเสียการทรงตัวทันที รู้สึกได้ว่ารถ “เอียง” ไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือบังคับเลี้ยวได้ยากขึ้น ควรรีบลดความเร็วและหาที่จอดปลอดภัย
4. ได้ยินเสียง “กึก ๆ กั๊ก ๆ” จากล้อ
หากยางแบนจนถึงขอบกระทะล้อ เวลาวิ่งจะได้ยินเสียงผิดปกติจากการเสียดสีกับพื้นถนน ถ้าได้ยินเสียงแบบนี้ควรหยุดใช้รถทันที เพราะการวิ่งต่ออาจทำให้ล้อแม็กหรือดุมล้อเสียหายหนักกว่าเดิม
5. รถวิ่งช้าลงแม้ไม่ได้เหยียบเบรก
ในบางกรณี หากยางหน้าแตก รถจะเหมือนถูกเบรกเองเล็กน้อย ความเร็วตกลงรวดเร็ว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่ามีปัญหากับยาง
วิธีรับมือเมื่อขับรถแล้วยางแตก
- จับพวงมาลัยให้มั่น อย่าหักเลี้ยวแรง เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว
- อย่าเบรกกะทันหัน ให้ค่อย ๆ ยกเท้าออกจากคันเร่ง และปล่อยให้รถชะลอความเร็วเอง
- เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อเตือนรถคันอื่น
- ประคองรถเข้าข้างทางที่ปลอดภัย แล้วจึงตรวจสอบสภาพยาง
- เปลี่ยนยางอะไหล่หรือเรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หากไม่มั่นใจ
การขับรถแล้วยางแตกไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ถ้าเรารู้จักสังเกตสัญญาณ เช่น พวงมาลัยสั่น รถเอียง เสียงดังผิดปกติ หรือรถควบคุมยาก ก็จะช่วยให้เรารับมือได้ทัน และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้มาก อย่าลืมตรวจเช็กสภาพยางเป็นประจำ เติมลมให้ถูกต้อง และพกยางอะไหล่ติดรถไว้เสมอเพื่อความอุ่นใจด้วยล่ะ!
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: ยางแตกกลางทาง ทำยังไงดี?
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…