สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับพวงมาลัยรถยนต์ พร้อมวิธีดูแลระบบพวงมาลัยรถให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1764732755403 1764732755403

(เครดิตรูปภาพ: freepik)

พวงมาลัยเป็นหนึ่งในส่วนควบคุมที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ มันไม่ใช่แค่อุปกรณ์สำหรับหมุนวิธี แต่เป็นระบบที่ซับซ้อนซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยและประสบการณ์ขับขี่โดยตรง การเข้าใจเกี่ยวกับพวงมาลัยรถยนต์ และวิธีดูแลระบบพวงมาลัยรถให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน คือสิ่งที่ผู้ขับขี่แต่ละคนควรทราบ บทความนี้จะให้ความรู้ครอบคลุมเกี่ยวกับพวงมาลัยและการดูแลระบบ

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับพวงมาลัยรถยนต์

พวงมาลัยคืออะไร

พวงมาลัยรถยนต์ เป็นส่วนควบคุมที่ผู้ขับขี่ใช้ในการเปลี่ยนทิศทางของรถ ออกแบบให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงที่ต้องใช้ในการขับขี่ ทำให้การขับขี่เป็นเรื่องไม่หนักเหมือนเดิม

โครงสร้างของระบบพวงมาลัย

ระบบพวงมาลัยรถยนต์ประกอบด้วยส่วนประกอบหลายชิ้น:

ส่วนหลักของระบบพวงมาลัย

  • พวงมาลัย (Steering Wheel) - ส่วนที่ผู้ขับขี่จับและหมุน
  • เสาพวงมาลัย (Steering Column) - ท่อที่เชื่อมพวงมาลัยกับเกียร์พวงมาลัย
  • เกียร์พวงมาลัย (Steering Gearbox) - ส่วนที่แปลงการหมุนของพวงมาลัยให้เป็นการเคลื่อนไหวของล้อ
  • ลูกปืนพวงมาลัย (Steering Linkage) - โครงสร้างที่เชื่อมต่อเกียร์พวงมาลัยกับล้อ
  • ปั๊มเพาเวอร์สตีริ่ง (Power Steering Pump) - ปั๊มที่ช่วยลดแรงในการหมุนพวงมาลัย
  • น้ำมันเพาเวอร์สตีริ่ง (Power Steering Fluid) - น้ำมันที่ส่งแรงในระบบ

หลักการทำงานของพวงมาลัย

เมื่อผู้ขับขี่หมุนพวงมาลัย การหมุนจะถูกส่งไปยังเกียร์พวงมาลัย ซึ่งจะแปลงการหมุนให้เป็นการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าและข้างหลังของลูกปืนพวงมาลัย ส่งผลให้ล้อหมุนไปทางใดทางหนึ่ง ระบบเพาเวอร์สตีริ่งช่วยให้การหมุนพวงมาลัยไม่ต้องใช้แรงมากนัก

ประเภทของพวงมาลัย

พวงมาลัยแบบต่างๆ:

  • Manual Steering - ระบบที่ไม่มีเพาเวอร์ช่วย ใช้แรงจากผู้ขับขี่เพียงอย่างเดียว (พบในรถเก่า)
  • Power Steering - ระบบที่มีปั๊มน้ำมันช่วยลดแรง (รถส่วนใหญ่ปัจจุบัน)
  • Electric Power Steering - ระบบที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแทนปั๊มน้ำมัน (เทคโนโลยีใหม่)
  • Steer-by-Wire - ระบบควบคุมโดยอิเล็กทรอนิกส์ (เทคโนโลยีอนาคต)

ความสำคัญของพวงมาลัยต่อความปลอดภัย

พวงมาลัยที่ทำงานได้ดี มีส่วนสำคัญต่อ:

  • การควบคุมรถให้ไปในทิศทางที่ต้องการ
  • การตอบสนองต่อการจราจรและสิ่งกีดขวาง
  • ความเสถียรของรถขณะเบรกและเลี้ยว
  • ความปลอดภัยโดยรวมของผู้โดยสาร

วิธีดูแลระบบพวงมาลัยรถให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน

ตรวจสอบและเติมน้ำมันเพาเวอร์สตีริ่ง

น้ำมันเพาเวอร์สตีริ่งเป็นหัวใจของระบบพวงมาลัยสมัยใหม่ การดูแลน้ำมันจึงสำคัญมาก

ขั้นตอนการตรวจสอบ:

  1. ขับรถให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้นเล็กน้อย (ประมาณ 5-10 นาที)
  2. ปิดเครื่องยนต์และรอประมาณ 2-3 นาที
  3. เปิดฝาหม้อน้ำมันเพาเวอร์สตีริ่ง
  4. ตรวจสอบระดับน้ำมัน ควรอยู่ระหว่างเครื่องหมาย "MIN" และ "MAX"
  5. หากต่ำกว่า "MIN" ให้เติมน้ำมันที่ถูกต้องตามสเปค

สิ่งที่ต้องทำ:

  • เติมน้ำมันเพาะปะเภทที่ตรงกับรุ่นรถของคุณ
  • เปลี่ยนน้ำมันทุก 50,000 ถึง 100,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับชนิด

เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเพาเวอร์สตีริ่ง

ไส้กรองช่วยป้องกันสิ่งสกปรกเข้าไปในระบบน้ำมัน

วิธีการดูแล:

  • ตรวจสอบไส้กรองทุก 20,000 กิโลเมตร
  • เปลี่ยนไส้กรองทุก 100,000 กิโลเมตรหรือทุกปี แล้วแต่อย่างไหนเกิดขึ้นก่อน
  • ใช้ไส้กรองมาตรฐาน (OEM) หรือที่มีคุณภาพ

ตรวจสอบสายพานขับเพาเวอร์สตีริ่ง

สายพานช่วยขับปั๊มเพาเวอร์สตีริ่ง ถ้าสายพานหลวมหรือสึกหรอ จะทำให้พวงมาลัยหนักขึ้น

การตรวจสอบและดูแล:

  • ตรวจสอบว่าสายพานมีรอยแตกหรือขาดหรือไม่ ทุก 10,000 กิโลเมตร
  • ตรวจสอบความตึงของสายพาน โดยกดตรงกลางสายพาน ควรเคลื่อนตัวได้ประมาณ 10-15 มิลลิเมตร
  • หากสายพานหลวมเกินไป ให้ปรับความตึง
  • หากสายพานสึกหรอมาก ให้เปลี่ยนใหม่

ตรวจสอบลูกปืนและจุดต่อพวงมาลัย

ลูกปืนและจุดต่อต้องทำงานได้ราบรื่น

วิธีตรวจสอบ:

  • ยกรถขึ้นและอ้วกล้อ เช็คการสั่นหรือปล่อยของลูกปืน
  • จับพวงมาลัยและลองหมุน ตรวจสอบว่ามีจุดที่หลวมหรือติดที่
  • ฟังเสียงคลิกหรือการทำให้เสียงขณะหมุนพวงมาลัย

การแก้ไข:

  • หากพบจุดต่อหลวม ให้ไปที่อู่ปรับตึง (Torque)
  • หากไส้ลูกปืนเสีย อาจต้องเปลี่ยน

ปรับศูนย์กลางล้อ (Wheel Alignment)

ศูนย์กลางล้อที่ไม่ดี ทำให้พวงมาลัยหนักหรือสั่น

วิธีการดูแล:

  • ตรวจสอบศูนย์กลางทุก 20,000 ถึง 40,000 กิโลเมตร
  • ปรับศูนย์กลางหลังจากชนกับสิ่งกีดขวางหรือขับบนถนนที่มีหลุม
  • ปรับศูนย์กลางอย่างน้อยปีละครั้งสำหรับรถที่ใช้งานหนัก

ตรวจสอบระบบแขวนลอย (Suspension)

ระบบแขวนลอยที่ไม่ดี ส่งผลต่อพวงมาลัยด้วย

สิ่งที่ต้องดูแล:

  • ตรวจสอบสเปรื่องช็อคอบนั้อร์และสารคารต
  • ตรวจสอบว่ายางมีความบาดหรือสึกหรอไม่
  • ปรับลม ยาง อย่างสม่ำเสมอ

ขับขี่อย่างถูกต้อง

วิธีขับขี่มีผลต่ออายุการใช้งานของพวงมาลัยด้วย

วิธีขับขี่ที่ถูกต้อง:

  • หลีกเลี่ยงการหมุนพวงมาลัยอย่างรุนแรงเมื่อรถหยุด
  • อย่าหมุนพวงมาลัยไปจนสุดเสมอ
  • ขับเบาๆ บนถนนที่มีหลุม เพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ไม่ควรหมุนพวงมาลัยอย่างรุนแรง เมื่อรถกำลังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว

ทำความสะอาดพวงมาลัย

การเก็บรักษาพวงมาลัยให้สะอาดจะช่วยให้มันอยู่ในสภาพดี

วิธีทำความสะอาด:

  • ใช้ผ้าชื้นอ่อนเช็ดพวงมาลัยอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง
  • ไม่ควรให้พวงมาลัยสัมผัสกับแดดโดยตรงเป็นเวลานาน

สัญญาณเตือนที่บ่งบอกปัญหาพวงมาลัย

เมื่อพบสัญญาณเตือนต่อไปนี้ ควรตรวจสอบพวงมาลัยโดยเร็ว:

  • พวงมาลัยหลวมหรือไม่ตั้งตัว - อาจเสาพวงมาลัยหลวม
  • พวงมาลัยหนัก - น้ำมันอาจไม่เพียงพอ
  • พวงมาลัยมีเสียงแปลก - สายพานหรือลูกปืนอาจมีปัญหา
  • พวงมาลัยสั่น - ล้อผิดศูนย์กลาง
  • น้ำมันรั่วไหล - สลท (Seal) อาจหลวม

กำหนดการบำรุงรักษาพวงมาลัยแนะนำ

การตรวจสอบประจำ:

  • ทุกเดือน: ตรวจสอบระดับน้ำมันเพาเวอร์สตีริ่ง
  • ทุก 10,000 กิโลเมตร: ตรวจสอบสายพาน สลท และลูกปืน
  • ทุก 20,000 กิโลเมตร: ตรวจสอบศูนย์กลางล้อ
  • ทุก 50,000 กิโลเมตร: ตรวจสอบสภาพของน้ำมัน
  • ทุก 100,000 กิโลเมตร: เปลี่ยนน้ำมันและไส้กรอง

ประโยชน์ของการดูแลพวงมาลัยอย่างถูกต้อง

การดูแลระบบพวงมาลัยรถให้ใช้งานได้อย่างยาวนานมีประโยชน์มากมาย:

  • ความปลอดภัย - ระบบที่ดีช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น
  • ความสะดวก - พวงมาลัยที่เบาช่วยให้ขับขี่สบายขึ้น
  • ประหยัดน้ำมัน - ระบบที่ดีจะไม่เพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้
  • ประหยัดค่าซ่อม - การบำรุงรักษา ปกติประหยัดกว่าการซ่อมแซม
  • อายุยาวนาน - ระบบที่ดีจะเพิ่มอายุการใช้งานของรถ
  • มูลค่ารถที่อยู่ในระดับดี - รถที่ได้รับการดูแลสมบูรณ์จะมีมูลค่าสูงกว่า

เมื่อไหร่ต้องไปที่อู่ซ่อม

ควรนำรถไปที่อู่ซ่อมเมื่อ:

  • พวงมาลัยหลวมหรือหนักอย่างมีนัยสำคัญ
  • มีสัญญาณเตือนลงในแผงควบคุม
  • น้ำมันรั่วไหลอย่างต่อเนื่อง
  • ได้ยินเสียงแปลกประหลาด
  • พวงมาลัยสั่นหรือมีการสั่นไหวผิดปกติ

เลือกอู่ซ่อมที่ดี

เมื่อต้องซ่อมพวงมาลัย ควรเลือกอู่ที่:

  • มีประสบการณ์และข้อมูลประจำตัว
  • มีช่างที่ผ่านการฝึกอบรม
  • ใช้ชิ้นส่วนเดิม (OEM) หรือชิ้นส่วนคุณภาพดี
  • มีอุปกรณ์ตรวจสอบสมัยใหม่
  • ให้การรับประกันบริการ
  • มีราคาอดทนและยุติธรรม

สรุป

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับพวงมาลัยรถยนต์ ว่าเป็นระบบที่ซับซ้อนและสำคัญต่อความปลอดภัยของรถ การดูแลระบบพวงมาลัยรถให้ใช้งานได้อย่างยาวนานนั้นไม่ยุ่งยากเหมือนที่คิด โดยการตรวจสอบเป็นประจำ การเติมน้ำมันให้ถูกต้อง และการขับขี่อย่างถูกต้อง คุณสามารถให้พวงมาลัยของรถทำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยเป็นเวลานาน การบำรุงรักษาปกติจะประหยัดกว่าการซ่อมแซมในภายหลัง ดังนั้นจงให้ความสำคัญกับการดูแลพวงมาลัยของรถเพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: รับซื้อรถยนต์มือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ให้ราคาสูง ภายใน 24 ชั่วโมง


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น