เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 2 3 และ 3+ ควรเลือกแบบไหนดี?

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1765277553766 1765277553766

(เครดิตรูปภาพ: freepik)


การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยปกป้องทั้งรถและทรัพย์สินของคุณ แต่หลายคนยังสงสัยว่าประกันแต่ละชั้นต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนดี? บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

ความคุ้มครอง: คุ้มครองครบถ้วนที่สุด

  • รถตัวเอง - คุ้มครองเต็มมูลค่า ไม่ว่าจะรถชน ไฟไหม้ น้ำท่วม
  • รถคู่กรณี - รับผิดชอบค่าเสียหายรถฝ่ายตรงข้ามเต็มจำนวน
  • ชีวิตและทรัพย์สิน - คุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก
  • ไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก - แม้เป็นฝ่ายผิดก็ไม่ต้องจ่ายเอง

ข้อดี

  • คุ้มครองครบทุกกรณี ใจเย็นที่สุด
  • ซ่อมศูนย์ได้ มั่นใจในคุณภาพ
  • เหมาะกับรถใหม่หรือรถราคาสูง
  • มีการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

ข้อเสีย

  • เบี้ยประกันแพงที่สุด - ประมาณ 3-5% ของมูลค่ารถ
  • ไม่คุ้มสำหรับรถเก่าที่มูลค่าต่ำ

เหมาะกับใคร?

  • รถใหม่ (0-5 ปี)
  • รถหรูหรือรถราคาสูง
  • คนขับมือใหม่หรือขับไม่ชำนาญ
  • ใช้รถบ่อยหรือขับในเมืองแออัด
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2

ความคุ้มครอง: คุ้มครองแบบจำกัด

  • รถตัวเอง - คุ้มครองเฉพาะกรณีที่กำหนด (ชน ไฟไหม้ น้ำท่วม ขโมย)
  • รถคู่กรณี - รับผิดชอบค่าเสียหายรถฝ่ายตรงข้าม
  • ชีวิตและทรัพย์สิน - คุ้มครองผู้ขับขี่และบุคคลภายนอก
  • มีค่าเสียหายส่วนแรก - ต้องจ่ายเองประมาณ 2,000-5,000 บาท

ข้อดี

  • เบี้ยประกันถูกกว่าชั้น 1 ประมาณ 20-30%
  • ยังคุ้มครองรถตัวเองในกรณีสำคัญ
  • เหมาะกับรถที่มีอายุ 5-7 ปี

ข้อเสีย

  • ไม่คุ้มครองเต็มมูลค่า ต้องจ่ายส่วนแรก
  • อาจซ่อมศูนย์ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับแผน
  • คุ้มครองน้อยกว่าชั้น 1

เหมาะกับใคร?

  • รถอายุ 5-7 ปี
  • ต้องการประหยัดเบี้ยแต่ยังคุ้มครองพอสมควร
  • คนขับมีประสบการณ์ ขับระมัดระวัง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3

ความคุ้มครอง: คุ้มครองแค่รถคู่กรณีเท่านั้น

  • ไม่คุ้มครองรถตัวเอง - ถ้ารถเราเสียหายต้องจ่ายเอง
  • รถคู่กรณี - รับผิดชอบค่าเสียหายรถฝ่ายตรงข้าม (จำกัดวงเงิน)
  • ชีวิตและทรัพย์สิน - คุ้มครองบุคคลภายนอกเท่านั้น

ข้อดี

  • เบี้ยถูกที่สุด - เริ่มต้นแค่ไม่กี่ร้อยบาทต่อปี
  • ตามกฎหมายบังคับ (พ.ร.บ.)
  • เหมาะกับรถเก่ามูลค่าต่ำ

ข้อเสีย

  • ไม่คุ้มครองรถตัวเองเลย
  • ถ้าเกิดอุบัติเหตุต้องซ่อมรถเองทั้งหมด
  • คุ้มครองรถฝ่ายตรงข้ามน้อย

เหมาะกับใคร?

  • รถเก่ามูลค่าต่ำ (10 ปีขึ้นไป)

  • งบประมาณจำกัด

  • ใช้รถน้อย เก็บไว้ในบ้าน

  • มีเงินสำรองซ่อมรถได้เอง

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

ความคุ้มครอง: เพิ่มความคุ้มครองจากชั้น 3

  • ไฟไหม้ และ รถหาย - คุ้มครองเพิ่มเติมจากชั้น 3 ธรรมดา
  • รถคู่กรณี - รับผิดชอบเหมือนชั้น 3
  • ชีวิตและทรัพย์สิน - คุ้มครองบุคคลภายนอก

ข้อดี

  • ถูกกว่าชั้น 2 แต่คุ้มครองกรณีสำคัญ
  • เหมาะกับรถเก่าที่ยังมีมูลค่าพอสมควร
  • คุ้มค่าสำหรับคนที่จอดรถนอกบ้าน

ข้อเสีย

  • ไม่คุ้มครองกรณีชน ต้องซ่อมเอง
  • คุ้มครองน้อยกว่าชั้น 2 และ 1

เหมาะกับใคร?

  • รถอายุ 7-10 ปี
  • จอดรถนอกบ้านหรือที่เสี่ยง
  • ต้องการประหยัดแต่กลัวไฟไหม้หรือรถหาย
วิธีเลือกประกันที่เหมาะสม

พิจารณาจากอายุรถ

  • รถใหม่ 0-3 ปี: ชั้น 1 (คุ้มครองเต็มที่)
  • รถ 4-7 ปี: ชั้น 1 หรือ 2 (ยังมีมูลค่าพอสมควร)
  • รถ 8-10 ปี: ชั้น 2 หรือ 3+ (ประหยัดแต่มีความคุ้มครองบ้าง)
  • รถ 10 ปีขึ้นไป: ชั้น 3 หรือ 3+ (ประหยัดสุด)

พิจารณาจากการใช้งาน

  • ขับบ่อย ใช้ในเมือง: ชั้น 1 (เสี่ยงชนสูง)
  • ขับปานกลาง: ชั้น 2
  • ขับน้อย เก็บในบ้าน: ชั้น 3 หรือ 3+
  • จอดนอกบ้าน กลางแจ้ง: อย่างน้อยชั้น 3+ (กันไฟไหม้/รถหาย)

พิจารณาจากงบประมาณ

  • งบเยอะ รถใหม่: ชั้น 1 
  • งบปานกลาง: ชั้น 2
  • งบจำกัด รถเก่า: ชั้น 3+ หรือ 3

พิจารณาจากทักษะการขับ

  • มือใหม่: ชั้น 1 (ปลอดภัยที่สุด)
  • มีประสบการณ์: ชั้น 2
  • ชำนาญมาก ขับระมัดระวัง: ชั้น 3+
เคล็ดลับประหยัดเบี้ยประกัน
  1. เปรียบเทียบราคาหลายบริษัท - ราคาแตกต่างกันได้มาก
  2. เลือกค่าเสียหายส่วนแรกสูงขึ้น - เบี้ยถูกลงแต่ต้องจ่ายเองมากขึ้น
  3. ไม่มีประวัติเคลม - ได้ส่วนลดพิเศษ
  4. ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย - GPS, กล้องหน้ารถ อาจได้ส่วนลด
  5. ซื้อประกันออนไลน์ - มักถูกกว่าซื้อผ่านตัวแทน
  6. ต่อกรมธรรม์ก่อนหมดอายุ - ไม่ขาดความคุ้มครอง ได้ส่วนลด
สรุป

การเลือกประกันรถยนต์ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแน่นอน ขึ้นอยู่กับ:

  • อายุและมูลค่ารถ
  • งบประมาณ
  • การใช้งาน
  • ทักษะการขับขี่

คำแนะนำทั่วไป:

  • รถใหม่ หรู มีมูลค่าสูง → ชั้น 1
  • รถอายุ 4-7 ปี → ชั้น 2
  • รถเก่า จอดนอกบ้าน → ชั้น 3+
  • รถเก่ามาก งบจำกัด → ชั้น 3

สิ่งสำคัญคือเลือกประกันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และสามารถจ่ายได้อย่างสบายใจ อย่าลืมเปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสม

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: รับซื้อรถยนต์มือสอง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ให้ราคาสูง ภายใน 24 ชั่วโมง


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น