
(เครดิตรูปภาพ: freepik)
ในยุคที่ตลาดรถยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเลือกยี่ห้อรถยนต์ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ซื้อทุกคนควรให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังมองหารถมือสองที่มีคุณภาพ หรือผู้ที่ต้องการขายรถเดิมเพื่อเปลี่ยนคันใหม่
บทความนี้รวบรวมข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับยี่ห้อรถยนต์ยอดนิยมในประเทศไทยปี 2568 ที่ได้รับความสนใจสูงสุดจากผู้ซื้อทั่วประเทศ ทั้งรถเก๋ง SUV กระบะ และรถไฟฟ้า พร้อมวิเคราะห์จุดเด่น สิ่งที่ควรพิจารณา และแนวโน้มตลาดที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรถที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและงบประมาณได้อย่างมั่นใจ
ยี่ห้อรถยนต์ยอดนิยมในไทย อัพเดทปี 2568
1. รถยนต์ Toyota
(เครดิตรูปภาพ: Toyota)
Toyota ถือเป็นหนึ่งในชื่อยี่ห้อรถที่ครองใจคนไทยมายาวนาน ด้วยความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทั้งรถใหม่และรถมือสอง
ข้อดี
ความทนทานและเชื่อถือได้สูง
ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง อะไหล่หาง่าย
ราคาต่อรองดีในตลาดรถมือสอง
มีรุ่นรถทุกยี่ห้อให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่รถเก๋งขนาดเล็กไปจนถึง SUV
ข้อเสีย
การออกแบบบางรุ่นอาจดูคลาสสิกเกินไปสำหรับผู้ที่ชอบความทันสมัย
ฟีเจอร์เทคโนโลยีบางอย่างอาจไม่ทันคู่แข่งในบางรุ่น
รุ่นแนะนำ: Toyota Yaris ATIV, Toyota Corolla cross, Toyota Fortuner, Toyota Hilux Revo
2. รถยนต์ Honda
(เครดิตรูปภาพ: Honda)
Honda เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมันและทรงพลัง พร้อมการออกแบบที่ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม
ข้อดี
เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันและมีสมรรถนะดีเยี่ยม
ดีไซน์ทันสมัย ภายในกว้างขวางและใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะในรุ่นใหม่ๆ
มูลค่าการขายต่อสูงในตลาดรถมือสอง
ข้อเสีย
ค่าซ่อมบำรุงบางรุ่นอาจสูงกว่าคู่แข่ง
อะไหล่บางชิ้นมีราคาค่อนข้างแพง
ระบบกันสะเทือนบางรุ่นอาจแข็งเกินไปสำหรับผู้ที่ชอบความนุ่มนวล
รุ่นแนะนำ: Honda City, Honda Civic, Honda HR-V, Honda CR-V, Honda Accord
3. รถยนต์ Nissan

(เครดิตรูปภาพ: Nissan)
Nissan เป็นแบรนด์รถที่มอบทางเลือกหลากหลายตั้งแต่รถเก๋งไปจนถึง SUV และกระบะ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยและราคาที่แข่งขันได้
ข้อดี
ราคาเหมาะสมเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ได้
เทคโนโลยีความปลอดภัยทันสมัย มี Safety Shield ในหลายรุ่น
ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย
มีตัวเลือกทั้งรถเก๋ง SUV และกระบะให้เลือกตามความต้องการ
ข้อเสีย
ศูนย์บริการไม่กระจายมากเท่ากับ Toyota หรือ Honda
มูลค่าต่อรองในตลาดรถมือสองอาจต่ำกว่ายี่ห้อญี่ปุ่นอื่นๆ
การออกแบบบางรุ่นอาจไม่โดดเด่นเท่าคู่แข่ง
รุ่นแนะนำ: Nissan Almera, Nissan Note, Nissan Kicks, Nissan X-Trail, Nissan Navara
4. รถยนต์ Mazda

(เครดิตรูปภาพ: Mazda)
Mazda โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงามตามหลักปรัชญา KODO Design และประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ตและสนุกสนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นบนท้องถนน
ข้อดี
ดีไซน์สวยงามและทันสมัย มีเอกลักษณ์โดดเด่น
ประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ตและตอบสนองดีเยี่ยม
ห้องโดยสารหรูหรา วัสดุตกแต่งมีคุณภาพ
เทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
ข้อเสีย
การบำรุงรักษาและอะไหล่มีราคาสูงกว่าค่ายญี่ปุ่นอื่นๆ
การประหยัดน้ำมันอาจไม่เทียบเท่า Honda หรือ Toyota
ที่นั่งหลังบางรุ่นอาจคับสำหรับผู้โดยสารตัวสูง
รุ่นแนะนำ: Mazda2, Mazda3, Mazda CX-3, Mazda CX-5, Mazda CX-8
5. รถยนต์ Mitsubishi

(เครดิตรูปภาพ: mitsubishi)
Mitsubishi เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มกระบะและ SUV ที่มีความแข็งแกร่งทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนักและการเดินทางในทุกสภาพถนน
ข้อดี
ความแข็งแกร่งและทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนัก
ราคาเหมาะสมเมื่อเทียบกับคุณสมบัติ
เทคโนโลยี 4WD ที่มีประสิทธิภาพในรุ่น SUV และกระบะ
อะไหล่และค่าบำรุงรักษาไม่แพงมาก
ข้อเสีย
ดีไซน์บางรุ่นอาจดูล้าสมัยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ฟีเจอร์ความบันเทิงและเทคโนโลยีอาจไม่ทันสมัยเท่าควร
การประหยัดน้ำมันในบางรุ่นอาจไม่โดดเด่น
รุ่นแนะนำ: Mitsubishi Attrage, Mitsubishi Pajero Sport, Mitsubishi Triton, Mitsubishi Xpander
6. รถยนต์ Ford

(เครดิตรูปภาพ: autofun)
Ford เป็นแบรนด์รถยนต์อเมริกันที่ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะกลุ่มกระบะและ SUV ที่มีความแข็งแรงทนทาน พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง
ข้อดี
เครื่องยนต์ทรงพลังและแข็งแรง
ระบบขับเคลื่อน 4WD มีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับการขับขี่ off-road
ดีไซน์แข็งแกร่งและดูมีสไตล์
เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน มีระบบ Ford Co-Pilot360
ข้อเสีย
ราคาขายและบำรุงรักษาสูงกว่ายี่ห้อญี่ปุ่น
การประหยัดน้ำมันค่อนข้างต่ำ
มูลค่าต่อรองในตลาดรถมือสองอาจไม่สูงเท่าควร
ศูนย์บริการไม่กระจายมากเท่ายี่ห้อญี่ปุ่น
รุ่นแนะนำ: Ford Ranger, Ford Everest, Ford Territory
7. รถยนต์ Suzuki

(เครดิตรูปภาพ: suzuki)
Suzuki เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มรถขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันและใช้งานในเมืองได้ดี
ข้อดี
ราคาย่อมเยา เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ซื้อครั้งแรก
ประหยัดน้ำมันมาก เหมาะกับการใช้งานในเมือง
ขนาดกะทัดรัด จอดและขับง่ายในพื้นที่แคบ
ค่าบำรุงรักษาและอะไหล่ไม่แพง
ข้อเสีย
สมรรถนะเครื่องยนต์จำกัด ไม่เหมาะกับการขับระยะไกล
ฟีเจอร์และความหรูหราอาจน้อยกว่าคู่แข่ง
มูลค่าต่อรองในตลาดรถมือสองค่อนข้างต่ำ
พื้นที่ภายในและท้ายรถค่อนข้างจำกัด
รุ่นแนะนำ: Suzuki Swift, Suzuki Celerio, Suzuki Ciaz, Suzuki Ertiga, Suzuki XL7
8. รถยนต์ BYD

(เครดิตรูปภาพ: BYD)
BYD หรือ Build Your Dreams บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดรถยนต์ไทย กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้คนคุ้นเคยและให้ความสนใจอย่างมาก ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย ผสานกับกลยุทธ์การทำตลาดที่ชาญฉลาด BYD จึงสามารถครองใจผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างรวดเร็ว โดย BYD ได้วางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่นอยู่ 4 รุ่นหลัก ๆ ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน คือ
- BYD Seal
- NEW BYD Otto 3
- BYD Otto 3
- BYD Dolphin
9. รถยนต์ Isuzu
(เครดิตรูปภาพ: Isuzu)
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น แบรนด์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนไทยมาอย่างยาวนาน เปรียบเสมือนตำนานบทสำคัญในประวัติศาสตร์ยานยนต์ไทย ด้วยความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และอะไหล่หาง่าย ผลักดันให้ อีซูซุ กลายเป็นผู้นำตลาดรถปิกอัพและรถบรรทุกในประเทศไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ โดย ISUZU ได้วางจำหน่ายรถยนต์อยู่สองประเภทหลัก ๆ ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน คือ
- Pickup เช่น ISUZU D-MAX X-SERIES, ISUZU V-Cross, ISUZU Space Cab
- SUV เช่น ISUZU MU-X 4x4 3.0 Ultimate Phantom Collection A/T
เลือกยี่ห้อรถยนต์ให้เหมาะกับผู้ซื้อ
การเลือกยี่ห้อรถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบส่วนตัว แต่ควรพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่างเพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง นี่คือคำแนะนำในการเลือกรถยนต์ทั้งหมดที่เหมาะกับคุณ
1. พิจารณาจากการใช้งาน
ใช้ในเมือง → แนะนำรถเก๋งขนาดเล็ก เช่น Honda City, Toyota Yaris
ใช้เดินทางระยะไกลบ่อย → SUV หรือ Sedan ขนาดกลาง เช่น Mazda CX-5, Honda Accord
ใช้งานหนัก → กระบะ เช่น Ford Ranger, Mitsubishi Triton
2. งบประมาณและค่าใช้จ่าย
ค่าบำรุงรักษา: Toyota และ Honda มีค่าซ่อมที่ค่อนข้างประหยัด
ราคาน้ำมัน: พิจารณารถ Hybrid หรือรถไฟฟ้าหากต้องการประหยัดระยะยาว
ราคาขายต่อ: รถยี่ห้อญี่ปุ่นมักมีราคาต่อรองดีกว่า
3. ความต้องการด้านเทคโนโลยี หากคุณเป็นคนที่ชอบฟีเจอร์ทันสมัย แบรนด์อย่าง Mazda, Nissan หรือรถไฟฟ้าจะเหมาะกับคุณมากกว่า"
คำถามที่พบบ่อย
1. ยี่ห้อรถยนต์ไหนที่ถือว่าน่าเชื่อถือที่สุดในตลาดไทย?
จากข้อมูลและการใช้งานจริงของผู้บริโภค Toyota และ Honda ถือเป็นสองยี่ห้อที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความน่าเชื่อถือสูงสุด เนื่องจากความทนทาน อะไหล่หาง่าย และมีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม แบรนด์อื่นๆ เช่น Mazda และ Nissan ก็มีคุณภาพที่ดีไม่แพ้กัน
2. รถมือสองยี่ห้อไหนมีราคาต่อรองดีที่สุด?
โดยทั่วไปแล้ว รถยี่ห้อญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Toyota, Honda และ Nissan มักมีราคาต่อรองที่ดีกว่ายี่ห้ออื่น เนื่องจากความต้องการในตลาดมือสองสูง นอกจากนี้ รุ่นรถที่เป็นที่นิยม เช่น Toyota Vios, Honda City ก็มีสภาพคล่องในการขายดีเช่นกัน
3. ควรเลือกรถเก๋ง SUV หรือกระบะดี?
ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณเป็นหลัก
รถเก๋ง: เหมาะกับการใช้ในเมือง ประหยัดน้ำมัน จอดง่าย
SUV: เหมาะกับครอบครัว ต้องการพื้นที่กว้างขวาง มีการเดินทางระยะไกล
กระบะ: เหมาะกับการใช้งานหนัก บรรทุกของ หรือการขับขี่ที่หลากหลายสภาพถนน
แนะนำให้พิจารณาจากไลฟ์สไตล์และความต้องการจริงของคุณเป็นหลัก
ข้อสรุป
สำหรับปี 2568 เราจะเห็นแนวโน้มการเติบโตของรถไฟฟ้าและ Hybrid มากขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ที่สำคัญ การเลือกรถควรพิจารณาจากการใช้งานจริง งบประมาณ และความต้องการส่วนตัว ไม่ใช่เพียงแค่ตามกระแส หากคุณกำลังมองหารถมือสองที่มีคุณภาพ อย่าลืมตรวจสอบประวัติและสภาพรถอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ หรือสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รถที่เหมาะสมที่สุดกับคุณ
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: เทคนิคขายรถมือสองให้ได้ราคาดีที่สุด
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…


