(เครดิตรูปภาพ: Feepik)
ฝากระโปรงรถยนต์ทั้งด้านหน้าและหลัง เป็นส่วนสำคัญในการเข้าถึงเครื่องยนต์หรือพื้นที่เก็บสัมภาระ
แต่บางครั้งอาจเกิดปัญหา “เปิดไม่ขึ้น” หรือ “ฝากระโปรงติด” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกตกใจหรือหงุดหงิด โดยเฉพาะเมื่อรีบใช้งานหรือต้องตรวจสอบเครื่องยนต์ฉุกเฉิน
สาเหตุหลักที่ทำให้ฝากระโปรงเปิดไม่ขึ้น
1. สายดึงเปิดฝากระโปรงขาดหรือหลุด
สายเคเบิลที่เชื่อมโยงจากก้านเปิดในห้องโดยสารไปยังกลอนฝากระโปรง หากขาดหรือหลุดออกจากตำแหน่งจะทำให้ไม่สามารถเปิดฝากระโปรงได้ตามปกติ
2. กลอนล็อกฝืดหรือขึ้นสนิม
หากไม่ได้เปิดฝากระโปรงเป็นเวลานาน หรือจอดรถในที่ชื้น อาจทำให้กลอนล็อกขึ้นสนิม ติดขัด หรือฝืด
3. กลไกเปิดเสียหาย
สปริงหรือกลไกอื่นที่ใช้ช่วยเด้งฝากระโปรงขึ้น อาจชำรุดหรือหลวม ทำให้ฝากระโปรงเปิดไม่ออกแม้จะดึงคันโยกแล้ว
4. ฝากระโปรงค้างเพราะถูกกระแทกหรือเบี้ยว
รถที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยบริเวณด้านหน้าหรือท้าย อาจทำให้ฝากระโปรงเบี้ยว จนติดหรือเปิดไม่ขึ้นได้
วิธีแก้ไขเบื้องต้น เมื่อเปิดฝากระโปรงไม่ได้
1. ลองดึงคันโยกเปิดฝากระโปรงพร้อมกับคนช่วยดัน/ยกด้านนอก
ขณะที่คุณดึงคันโยกเปิดจากในรถ ให้อีกคนค่อย ๆ ยกหรือเขย่าฝากระโปรงเบา ๆ ด้านนอก เพราะบางครั้งแรงสั่นอาจช่วยให้กลอนคลายตัวได้ง่ายขึ้น
2. เคาะเบา ๆ บริเวณกลอนล็อก
ใช้ด้ามไขควงหรือมือเคาะเบา ๆ ตรงตำแหน่งล็อก (ปกติอยู่กลางขอบฝากระโปรงหน้า) ระหว่างดึงสายเปิด ช่วยให้สลักที่ติดอยู่ขยับได้
3. ตรวจสอบสายดึงภายในรถ
เปิดแผงใต้คันโยกในห้องโดยสารเพื่อตรวจสอบว่าสายดึงหลุด ขาด หรือคลายตัวหรือไม่ ถ้าหลุดสามารถใช้คีมหนีบดึงสายตรงได้ชั่วคราว
4. ฉีดน้ำมันหล่อลื่นที่กลอน
หากพอจะเปิดได้บ้างให้รีบฉีดน้ำมันหล่อลื่น เช่น WD-40 ตรงกลอนหรือจุดหมุน เพื่อให้กลอนคลายตัว
หากยังเปิดไม่ได้ ควรทำอย่างไร?
หากคุณลองทำตามวิธีเบื้องต้นแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดฝากระโปรงได้ แนะนำให้พาไปให้ช่างตรวจสอบโดยด่วน โดยเฉพาะถ้าหากคุณต้องตรวจสอบน้ำมันเครื่องหรือแบตเตอรี่ ไม่แนะนำให้ฝืนงัด เพราะการฝืนงัดอาจทำให้กลอนเสียหายมากขึ้นหรือฝากระโปรงบุบได้นั่นเอง
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: มือใหม่ต้องรู้! 5 เทคนิคสำหรับขับรถเกียร์ออโต้
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…