(เครดิตรูปภาพ: Autonation)
เคล็ดลับดูแลรถด้วยตัวเอง ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
ใบปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือเมื่อต้องขับรถผ่านพื้นที่เปียกชื้น หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้เกิดอันตรายขณะขับรถได้ การเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนไม่ใช่เรื่องยาก และคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์บริการอีกด้วย
สัญญาณที่บ่งบอกว่าใบปัดน้ำฝนควรเปลี่ยน
- ใบปัดทิ้งคราบน้ำไว้บนกระจก
- เสียงดังขณะปัด
- ยางปัดเริ่มแข็งหรือฉีกขาด
- ปัดแล้วเป็นรอยเส้น ๆ หรือปัดไม่สะอาด
โดยทั่วไป ใบปัดน้ำฝนควรเปลี่ยนทุก 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพอากาศที่รถต้องเผชิญ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- ใบปัดน้ำฝนใหม่ (ควรเลือกขนาดที่เหมาะกับรถแต่ละรุ่น)
- ผ้าสะอาด
- คู่มือรถ (สำหรับดูวิธีถอด-ใส่เฉพาะรุ่น)
วิธีเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนด้วยตัวเอง
1. ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น
ยกก้านปัดน้ำฝนให้อยู่ในแนวตั้งอย่างระมัดระวัง ระวังอย่าให้ก้านเหล็กกระแทกกระจก เพราะอาจทำให้กระจกแตกได้
2. ถอดใบปัดเก่าออก
สังเกตว่าจะมีตัวล็อกเล็ก ๆ ที่เชื่อมใบปัดกับก้าน ให้กดหรือเลื่อนตามลักษณะของรุ่น จากนั้นดึงใบปัดเก่าออกเบา ๆ
3. ติดตั้งใบปัดใหม่
นำใบปัดน้ำฝนใหม่ใส่เข้ากับก้าน โดยให้ตัวล็อกเข้าที่อย่างแน่นหนา คุณจะได้ยินเสียง “คลิก” เมื่อประกอบถูกต้อง
4. ทดสอบการทำงาน
หลังติดตั้งเสร็จ ลองเปิดใช้งานใบปัดน้ำฝนกับน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดกระจกเพื่อตรวจสอบว่าทำงานได้ดีหรือไม่
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ควรทำความสะอาดยางใบปัดเป็นประจำด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานใบปัดน้ำฝนขณะกระจกแห้ง เพราะจะทำให้ยางสึกเร็ว
- หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับขนาดใบปัดน้ำฝนที่เหมาะสม ให้ดูจากคู่มือรถหรือสอบถามร้านอะไหล่
การเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แถมยังช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายจากการเข้าศูนย์บริการ เป็นอีกหนึ่งทักษะง่าย ๆ ที่คนมีรถควรเรียนรู้ไว้ เพื่อความปลอดภัยและการดูแลรถที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาวอีกด้วย
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: น้ำท่วมขับผ่านได้ไหม? วิธีดูระดับน้ำและข้อควรระวังเมื่อขับรถลุยน้ำ
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…