(เครดิตรูปภาพ: gogirl)
สำหรับคนที่ต้องเดินทางไกล หรือผู้ที่ต้องขับขี่บนถนนที่โล่งเป็นประจำ ระบบ Cruise Control ถือเป็นหนึ่งในฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่ช่วยให้การขับขี่ผ่อนคลายและประหยัดน้ำมันได้จริง
หลายคนอาจยังไม่กล้าใช้ หรือยังไม่เข้าใจวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง บทความนี้ Motorist จะพาคุณไปทำความรู้จักกับระบบ Cruise Control และเทคนิคการใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
Cruise Control คืออะไร?
Cruise Control คือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติของรถยนต์ เมื่อเปิดใช้งาน ระบบจะรักษาความเร็วของรถให้คงที่ตามที่คุณตั้งค่าไว้ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งค้างไว้ตลอดเวลา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถพักเท้าขวา ลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล และช่วยให้การใช้ความเร็วเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลดีต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
หลักการทำงานของ Cruise Control
ระบบ Cruise Control จะทำงานโดยการควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงไปยังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็วที่ตั้งไว้ หากรถวิ่งขึ้นเนิน ระบบจะเพิ่มการจ่ายน้ำมันเพื่อรักษาความเร็ว หากรถวิ่งลงเนิน ระบบจะลดการจ่ายน้ำมัน หรืออาจมีการใช้แรงฉุดของเครื่องยนต์ (Engine Brake) ช่วย ซึ่งขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น เพื่อไม่ให้ความเร็วเกินกว่าที่ตั้งค่าไว้
การใช้งาน Cruise Control (ปุ่มพื้นฐาน)
รถแต่ละรุ่นอาจมีตำแหน่งปุ่มที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีปุ่มหลัก ดังนี้
- ON / OFF: ปุ่มเปิด-ปิดระบบ Cruise Control
- SET / SET-: ปุ่มตั้งค่าความเร็ว หรือลดความเร็วที่ตั้งไว้
- RES / RES+: ปุ่มกลับไปใช้ความเร็วที่ตั้งค่าไว้ก่อนหน้า หรือเพิ่มความเร็วที่ตั้งไว้
- CANCEL: ปุ่มยกเลิกระบบชั่วคราว โดยที่ระบบยังเปิดอยู่ (เช่น เมื่อเหยียบเบรก ระบบจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ)
เทคนิคการใช้ Cruise Control ให้ประหยัดและสะดวกสบาย
1. ใช้บนถนนที่โล่งและสภาพจราจรคงที่
- เช่น ถนนทางหลวง มอเตอร์เวย์ ที่มีการจราจรเบาบางและมีสิ่งกีดขวางน้อย
- ไม่ควรใช้ในสภาพการจราจรติดขัด ถนนในเมืองที่มีการหยุด หรือเร่งบ่อย ทางลงเขาที่ลาดชันมาก หรือถนนที่คดเคี้ยว เพราะจะทำให้ต้องกดเบรกหรือยกเลิกระบบบ่อยครั้ง ส่งผลให้ระบบทำงานหนัก และอาจสิ้นเปลืองน้ำมันกว่าการขับขี่ปกติ
2. ตั้งค่าความเร็วที่เหมาะสม
- ความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนน และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้รถวิ่งได้อย่างคงที่ที่สุด
- การตั้งค่าความเร็วที่สูงเกินไป จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ
3. เรียนรู้การเพิ่ม-ลดความเร็วด้วยปุ่ม
แทนที่จะเหยียบเบรกเพื่อลดความเร็วแล้วตั้งค่าใหม่หมด ให้ใช้ปุ่ม SET- เพื่อลดความเร็ว หรือ RES+ เพื่อเพิ่มความเร็วทีละน้อย (มักจะปรับครั้งละ 1-2 กม./ชม.) ซึ่งจะช่วยรักษาระดับการใช้เชื้อเพลิงให้คงที่
4. ยกเลิกระบบเมื่อจำเป็น
เมื่อต้องการชะลอความเร็วอย่างรวดเร็ว (เช่น มีรถปาดหน้า หรือมีสิ่งกีดขวาง) การเหยียบเบรกจะทำให้ระบบ Cruise Control ถูกยกเลิกทันที หรือสามารถกดปุ่ม CANCEL เพื่อยกเลิกชั่วคราว เมื่อสถานการณ์กลับสู่ปกติ การกด RES อีกครั้งทำให้สามารถกลับไปใช้ความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้าได้โดยไม่ต้องตั้งค่าใหม่
5. ระมัดระวังภาวะสภาพอากาศไม่ดี
หลีกเลี่ยงการใช้ Cruise Control บนถนนที่เปียก ลื่น มีน้ำท่วมขัง หรือมีหิมะหรือน้ำแข็ง เพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย เนื่องจากระบบไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวถนนได้อย่างรวดเร็วเท่ากับการควบคุมด้วยตนเอง
ข้อดีของการใช้ Cruise Control
- ลดความเมื่อยล้า: ช่วยให้ผู้ขับขี่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อขา ลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล
- ประหยัดน้ำมัน: การรักษาความเร็วให้คงที่ ช่วยลดการเหยียบคันเร่งและเบรกโดยไม่จำเป็น ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลดีต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
- รักษาวินัยจราจร: ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมความเร็วไม่ให้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ง่ายขึ้น
ข้อควรระวัง
- ห้ามละสายตาจากถนน: แม้ระบบจะช่วยให้คุณพักเท้าได้ แต่สายตาและสติสัมปชัญญะต้องอยู่กับการขับขี่ตลอดเวลา
- ระวังรถคันหน้า: ในระบบ Cruise Control แบบดั้งเดิม (Non-Adaptive) รถจะไม่สามารถตรวจจับรถคันหน้าได้ ผู้ขับขี่ต้องรักษาระยะห่าง และควบคุมเบรกด้วยตัวเอง ยกเว้น ในกรณีที่รถของคุณมี Adaptive Cruise Control ซึ่งทำให้สามารถรักษาระยะห่างอัตโนมัติได้
- รู้จักขีดจำกัดของระบบ: ระบบ Cruise Control ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ขับขี่แทนคุณ คุณยังคงต้องเป็นผู้ควบคุมหลักของรถ
การทำความเข้าใจและใช้งานระบบ Cruise Control อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ลดความเมื่อยล้า และช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้จริง อย่าลืมลองใช้งานฟังก์ชันนี้ในการขับขี่ครั้งต่อไปกันดูนะ!
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: เทคนิคการใช้เกียร์ D, L, S และ P ให้เต็มประสิทธิภาพ
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…
