(เครดิตรูปภาพ: Old Tree)
พ.ร.บ. รถยนต์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนไม่ควรมองข้าม
เพราะไม่เพียงแค่เป็นข้อบังคับตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองพื้นฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนนอีกด้วย ซึ่ง พ.ร.บ. รถยนต์แต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันทั้งด้านราคาและความคุ้มครอง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจชัดเจนในแบบฉบับที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นที่สุด
พ.ร.บ. รถยนต์ คืออะไร?
พ.ร.บ. รถยนต์ ย่อมาจาก "พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535" เป็นประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำ โดยเฉพาะรถยนต์ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก หากไม่มีพ.ร.บ. จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และยังอาจถูกปรับซ้ำหากไม่มีหลักฐานแสดงไว้บนรถ
ประโยชน์ของ พ.ร.บ. คือให้ความคุ้มครองเบื้องต้นในกรณีที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคนเดินถนนก็ตาม
อัปเดตราคา พ.ร.บ. รถยนต์แต่ละประเภท ล่าสุด
ราคาของ พ.ร.บ. แตกต่างกันตามประเภทรถและขนาดเครื่องยนต์
1. พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์
- ขนาดเครื่องยนต์ ต่ำกว่า 75cc: เริ่มต้นที่ 150–200 บาท
- ขนาดเครื่องยนต์ 75–125cc: เริ่มต้นที่ 300 บาท
2. พ.ร.บ. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
- รถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน: เริ่มต้นที่ 600 บาท
- รถยนต์นั่งเกิน 7 คน: เริ่มต้นที่ 1,000 บาท
3. พ.ร.บ. รถบรรทุก
- น้ำหนักเกิน 3 ตัน แต่ไม่เกิน 6 ตัน: เริ่มต้น 1,200 บาท
- ขนส่งสารไวไฟ/อันตรายต่ำกว่า 12 ตัน: เริ่มต้น 1,600 บาท
- รถบรรทุกน้ำหนักรวมเกิน 12 ตัน: เริ่มต้น 2,300 บาท
ราคาที่แตกต่างกันสะท้อนถึงระดับความเสี่ยงของแต่ละประเภทรถ เช่น รถขนาดใหญ่ หรือบรรทุกของอันตราย ย่อมมีโอกาสเกิดเหตุรุนแรงมากกว่า
ไม่ว่าคุณจะใช้รถประเภทใด การต่อ พ.ร.บ. ให้ตรงเวลาเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจว่าคุณจะได้รับความช่วยเหลือหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: จำนำเล่มทะเบียนกับการรีไฟแนนซ์ ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…